หลังจากที่เอาแต่สร้างเกมเน้นระบบ Multiplayer และ Live Service มานานหลายปี ของ EA ดูเหมือนว่าในตอนนี้ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมจะเริ่มกลับมาสู่การสร้างเกมที่นำเสนอเน้นไปที่โหมดผู้เล่นคนเดียวหรือ Single-player อีกครั้งนึง ด้วยความสำเร็จอย่างถล่มทลายของเกมอย่าง Dead Space Remake ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปก่อนหน้าที่แน่นอนว่าเป็นส่วนนึงของการตัดสินใจนี้ แต่การกลับมาพัฒนาเกมที่ให้ประสบการณ์การเล่นคนเดียวใหม่อีกครั้ง ก็อาจเป็นการเอาใจเหล่าชาวเกมที่รู้สึกหงุดหงิดกับแผนธุรกิจอันยาวนานหลายปีของ EA ที่เน้นแต่ระบบผู้เล่นหลายคนในเกือบทุกๆเกมที่ออกวางจำหน่าย
แม้ว่าชาวเกมบางคนอาจไม่เชื่อ เมื่อ EA ออกมาบอกว่า เกมแนว Single-player ยังสำคัญมากๆ กับพวกเขาเมื่อปีกลาย (เพราะหลายๆ คน ก็คิดว่า EA เพียงแค่พูดไปส่งๆ เท่านั้น) แต่ดูเหมือนว่า EA จะยังคงรักษาคำพูดนี้
.
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าชาวเกมบางคนไม่ได้ยี่หระหรือสนใจกับการกลับลำมาสนับสนุนประสบการณ์การเล่นแบบผู้เล่นคนเดียวของ EA มากนัก เพราะมันค่อนข้างขัดแย้งกับการกระทำของ EA ก่อนหน้านั้นหลายอย่าง เช่น เมื่อปี 2022 EA เคยสร้างดราม่าใหญ่บน Twitter หลังจากบัญชีทางการของ EA เคยออกมาทวีตว่า “พวกเขาอายุได้คะแนนเต็ม 10 แต่ก็ชอบเล่นแค่เกมแนวผู้เล่นคนเดียวเท่านั้น” ทำเกิดกระแสต่อต้านและเจอทัวร์ลงเป็นจำนวนมากจากเหล่าผู้เล่นที่เห็นว่า นี่คือการดูถูกความชื่นชอบของพวกเขา ทำให้บริษัทต้องรีบเข้ามาจัดการกับดราม่าครั้งนี้ โดยโทษว่าเป็นความผิดของทีมงาน PR รวมถึงออกมาแก้เขินว่า “สมควรโดนด่าจริง พวกเราขอรับคำด่านี้ไว้ เพราะคนที่เล่นเกม Single-player ก็คือได้ 11 เต็ม 10” (ที่ก็ดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่นัก เพราะก็ยังโดนล้ออยู่ดี)
.
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ EA ออกมาโจมตีเกมแบบ Single-player ที่ทวีตดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทัศนคติของ EA ที่มีต่อเกมแนวนี้ ที่โด่งดังที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ในปี 2010 ที่ คุณ Frank Gibeau อดีตประธาน EA Games (ปัจจุบันเป็นประธาน Zynga) เคยพูดไว้ในตอนนั้นว่า “เกมแบบผู้เล่นคนเดียวมันตายไปแล้ว”
.
คุณ Gibeau กล่าวไว้เมื่อปี 2010
“ผมว่าคุณไปถามหัวหน้าสตูดิโอของ EA หลายๆ คน พวกเขาก็บอกคุณเหมือนกันหมดแหละ พวกเขาพร้อมที่จะไปทำเกมเพลย์ ไม่ว่าจะเป็น Co-op, Multiplayer หรือ Online Services กันแล้ว ไม่ใช่เกมที่เล่นแล้วจบไปแบบ Single-player ที่เล่นจบใน 25 ชั่วโมง แล้วก็เลิกไป ผมว่าโมเดลแบบนี้มันตายไปแล้ว”
แม้ว่าคำพูดของคุณ Gibeau “อาจจะจริง” ในยุคนั้นที่การใส่โหมด Multiplayer และการสร้างเกมที่เน้นให้บริการแบบออนไลน์ คือทางรอดของอุตสาหกรรมเกม แต่คำกล่าวด้านบนก็ทำให้เหล่าชาวเกมในตอนนั้นลุกเป็นไฟ และก็ยิ่งตอกย้ำให้เป็นจริงเข้าไปอีก เมื่อเกมของ EA ในช่วงต่อๆ มา ก็ยัดเยียดโหมดผู้เล่นหลายคนใส่เข้ามา ถึงแม้ว่ามองมาจากดาวเสาร์ก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่จำเป็นขนาดนั้นก็ตาม
ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Simcity 2013 ประสบความล้มเหลวในตอนนั้น อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ – https://sheapgamer.com/simcity-from-rise-to-ruin/
จากการที่ EA มุ่งเน้นที่จะสร้างเกมที่มีแต่โหมด Multiplayer เป็นหลักตลอดช่วงทศววรษที่ผ่านมา ทำให้หลายๆ คนเริ่มไม่พอใจที่เกมแนว Single-player เริ่มจะล้มหายตายจากไปจากรายการเกมของทาง EA แม้กระทั่งหลายๆ แฟรนไชส์เกมที่ครั้งนึงเคยมุ่งเน้นประสบการณ์การเล่นคนเดียวจนได้รับเสียงชื่นชม ก็ไม่รอดเงื้อมมือของ EA ไปได้ อย่างเช่น Dead Space 3 ที่ได้รับคำวิจารณ์สับเละจากผู้เล่นด้วยระบบผู้เล่นหลายคนที่ถูกยัดเยียดเข้ามาโดยไม่จำเป็น แล้วยังลดทอนความสยองขวัญอย่างที่เป็นเหมือนลายเซ็นของแฟรนไชส์ลงไปด้วย
.
แน่นอนว่าการตั้งความหวังอันสูงลิ่วไว้กับการเล่นแบบออนไลน์ สุดท้ายก็กลับมาทิ่มแทง EA เอง จากความล้มเหลวครั้งใหญ่ของ Anthem เกมแนว RPG สวมชุดเกราะในโลกไซไฟจากทาง BioWare ที่พังไม่เป็นท่า หลังวางจำหน่ายเมื่อปี 2019 ทำให้เป็นที่ชัดเจนสำหรับ EA ว่า แผนธุรกิจนี้ ไปไม่รอดอีกต่อไปแล้วในสายตาหลายๆ คน
.
จากความล้มเหลวของ Anthem ทำให้ EA เหมือนจะกลับใจได้ว่าเกมแนว Single-player ยังจำเป็นอยู่ จากความสำเร็จของ Star War Jedi: Fallen Order ที่ออกปีเดียวกับ Anthem แต่กลับทำยอดขายได้มากกว่า 10 ล้านชุด หรือแม้แต่ Mass Effect Legendary Edition เวอร์ชันรีมาสเตอร์ของ Mass Effect ไตรภาคที่กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งโดยไม่มีโหมด Multiplayer และได้เสียงตอบรับไปในทางที่ดีเช่นกัน ก็ยิ่งตอกย้ำในเรื่องนี้ว่าผู้เล่นยังโหยหาเกมแบบเล่นคนเดียวอยู่ แม้ว่าผู้บริหารระดับสูงบางคนจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
.
และการกลับมาเน้นเกมที่ให้ประสบการณ์การเล่นแบบผู้เล่นคนเดียว ก็ยิ่งเฉิดฉายมากขึ้นไปอีกจากความประสบความสำเร็จของ Dead Space Remake ที่ได้เสียงตอบรับไปในทางที่ดีมากๆ จากทั้งชาวเกมและสื่อ รวมไปถึงความไฮป์ของผู้เล่นกับเกมถัดไปอย่าง Star War Jedi: Survivor (ที่แม้ว่าจะมีปัญหาด้านเทคนิคฉุดรั้งความยอดเยี่ยมของเกมในวันแรก แต่ในแง่คุณภาพเกมก็ถือได้ว่า ดีกว่าภาคแรกเยอะมากๆ)
.
ทว่าการกลับมาเน้นการพัฒนาเกมแบบ Single-player ก็ใช่ว่า EA จะทอดทิ้งเกมแบบ Multiplayer ไปเลยเสียทีเดียว แม้ว่ากำหนดการวางจำหน่ายเกมจะเต็มไปด้วยเกมแบบผู้เล่นคนเดียว แต่เกมแบบผู้เล่นหลายคน และเกมแนว Live Service ก็ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของ EA อยู่ อย่างเช่น FIFA, Battlefield หรือแม้แต่ Apex Legends
.
ไม่ว่า EA จะเลือกที่จะอยู่กับเกมแนว Single-player ไปอีกยาวๆ หรือจะย้อนกลับไปลุยกับเกมแนว Live Service และระบบ Microtransaction นั่นเป็นเรื่องที่ยังต้องรอดูกันต่อไป แต่อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้เราก็ยังคงได้เห็นเหล่าชาวเกมยังคงเพลิดเพลินไปกับประการณ์การเล่นเกมแบบ Single-player ที่สร้างโดยบริษัทเกมที่ครั้งหนึ่งเคยทอดทิ้งหนทางนี้ไปแล้วนับสิบปี และทำให้เราเห็นถึงอนาคตอันสดใสของเกมแบบ Single-player มากขึ้นด้วย
.
