ม็อดนี้จะทำให้เราสามารถปรับแต่งตัวละครผู้เล่น ซึ่งปกติจะเป็น Geralt of Rivia ให้เป็นคนอื่นได้ตามที่ต้องการ จะแต่งรูปร่างหน้าตาอย่างไรก็ได้ หรือจะนำชิ้นส่วนของตัวละครใดๆ มาใช้งานก็ย่อมได้
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า The Witcher เป็น 1 ในซีรีส์เกม RPG ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในอุตสาหกรรมเกมตอนนี้ ซึ่งตัวเกมนั้นมีพื้นฐานเนื้อเรื่องมาจากหนังสือของ Andrzej Sapkowski นักแต่งนิยายขายดีชาวโปแลนด์ และด้วยเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยม กราฟฟิกที่สวยงาม และระบบการเล่นที่ดี ทำให้ตัวเกม The Witcher นั้นได้จับใจชาวเกมทั่วโลก และทำยอดขายมากมาย พร้อมทั้งกวาดรางวัลเกมแห่งปีไปมากมายเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่เราเคยรู้กันมาว่า Sapkowski ไม่ใช่คนที่ชื่นชอบวีดีโอเกม และเขาไม่เคยเชื่อในตัวเกม The Witcher ว่าจะประสบความสำเร็จ นั่นทำให้ในตอนแรกเริ่มที่พัฒนาเกม Sapkowski ได้เรียกเงินก้อนจากทาง CD Projekt เป็นค่าลิขสิทธิ์เพื่อนำนิยายของเขาไปพัฒนาเป็นวีดีโอเกม และไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับความเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการพัฒนาเกม สิ่งที่หลายคนสงสัยกันมากที่สุด ก็คงเป็นคำถามที่ว่า “แล้ว Sapkowski ได้เงินไปเท่าไหร่?” คำตอบจาก Sebastian Zieliński อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง CD Project คือ $9,500 หรือประมาณ 320,000 บาท หากเทียบเป็นค่าเงินในตอนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ Sapkowski…
CD Projekt ได้เปิดเผยรายได้ประจำปีของปีที่แล้ว โดยตั้งแต่วางจำหน่าย The Witcher 3 เมื่อเดือน พฤษภาคม 2015 ตัวเกมทำยอดขายรวมทะลุ 200 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 8,600 ล้านบาทไทย ในขณะที่ยอดรวมทั้งซีรีส์ของเกมนี้รวมแล้วขายได้มากกว่า 25 ล้านชุด รายได้รวมของปี 2016 ของทาง CD Projekt นั้น สูงขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ Piotr Nielubowicz รองประธานฝ่ายธุรกิจการเงิน กล่าวว่า “มันเป็นผลการดำเนินงานธุรกิจที่ยอดเยี่ยมสำหรับ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้พวกเราสามารถไล่ตามสิ่งใหม่ๆ ความทะเยอะทะยานอยากและ ขยายองค์กรต่อไปได้” “หัวใจหลักของการพัฒนาเกมในตอนนี้ของเราอยู่ที่ Cyberpunk 2077 และ GWENT: The Witcher Card Game” CD Projekt ได้ใช้เงินกว่า 12.5 ล้าน ปอนด์สำหรับรายจ่ายในการพัฒนา แต่ก็มีเงินกว่า…
อย่างที่หลายคนน่าจะรู้มาว่า The Witcher 3: Wild Hunt นั้นทำยอดขายทั่วโลกได้แล้วกว่า 10 ล้านชุด และได้ขึ้นแท่นเกมแห่งปีกว่า 250 รางวัลเมื่อปีที่มันออก รวมถึง DLC Blood and Wine ก็ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ทำให้หลายคนอาจจะคิดว่า แบบนี้ Andrzej Sapkowski ซึ่งเป็นผู้แต่งนิยาย The Witcher ก็น่าจะได้ส่วนแบ่งอย่างมหาศาลจนทำให้ร่ำรวยไปแล้ว แต่จริงๆคือ เปล่าเลย เขาไม่เคยได้เงินแม้สักเซนต์เดียวจากยอดขายถล่มทลายของ The Witcher จากทาง CD Projekt Red เรื่องนี้ Sapkowski ได้เปิดเผยในบทสัมภาษณ์กับทาง Eurogamer ว่า เขาไม่ได้สนใจในวีดีโอเกม และไม่ได้คิดว่ามันจะประสบความสำเร็จ เขาจึงขายสิทธิ์ให้กับทาง CD Projekt Red โดยไม่ได้ขอส่วนแบ่งใดๆทั้งสิ้น นอกจากเช็คใบเดียว “ผมมันโง่เองที่ขายสิทธิ์ให้เขาแบบทั้งก้อน” Sapkowski กล่าวกับ Eurogamer “พวกเขา(CD Projekt Red)…
Michał Kiciński คือผู้ร่วมก่อตั้ง CD Projekt สมัยที่บริษัทยังเริ่มตั้งไข่เมื่อปี 1994 (สามารถเข้าไปดูประวัติของ CD Projekt ได้ที่ช่องของ TheMaicena ) และนั่นแปลว่าเขาเป็นคนที่มีบทบาทอย่างมากที่ทำให้ The Witcher 3 ได้ถือกำเนิดขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีบทบาทในสตูดิโอหรือการพัฒนาเกมมากกว่า 5 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นหลักๆ ของบริษัทอยู่โดยถือครองหุ้นเกือบ 11% ของบริษัท ดังนั้นคุณอาจจะคาดว่าเขาน่าจะเคยได้ดำดิ่งในประสบการณ์การเล่น The Witcher 3 มาแล้วหลายร้อยชั่วโมง ใช่มั้ย? แต่เปล่าเลย จริงๆแล้วคือเขายังไม่ได้ได้แตะ The Witcher 3 เลยสักครั้ง เรื่องนี้เปิดเผยขึ้นในบทสัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ Gazeta.pl (ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยชาว Reddit และ Google Translate) ว่าตั้งแต่เขาหยุดการดำเนินงานใดๆกับทางบริษัท เขาก็ไม่ได้อยากเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมเกมอีกแล้ว “ถ้าพูดแบบทั่วๆไป ผมไม่ได้คิดถึงมันอีกแล้ว ถ้าจะมีความคิดถึงเล็กๆน้อยๆก็แค่เกมวางแผนบางเกมบน Ipad ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับผม ไม่ได้หมายความว่า ผมจะสูญเสียความสนใจในวีดีโอเกมไปแล้ว ผมยังชอบมันอยู่…
ในระหว่างงาน infoShare 2016 คุณ Artur Kurasinski ได้ทำการสัมภาษณ์ Marcin Iwinski บอสใหญ่แห่ง CD Projekt RED ซึ่งเปิดเผยว่า The Witcher 3: Wild Hunt ทำยอดขายทั่วโลกไปเกือบๆ 10 ล้านชุดแล้ว “เรารู้สึกปลื้มปริ่มเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความสัตย์จริงว่า เราไม่เคยคาดหวังว่าเกมมันจะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามขนาดนี้เลย แต่จากทิศทางของยอดขาย เกมในซีรีย์ The Witcher ก็ทำยอดขายไปได้ถึง 20 ล้านชุดทั่วโลกแล้ว ซึ่งครึ่งหนึ่งของยอดขายนี้มาจาก The Witcher 3 แปลว่าภาคนี้ทำยอดขายได้มากกว่าภาคอื่นๆถึงเท่าตัว” “โดยทั่วไปแล้วผมคิดว่า The Witcher 3 ก็เหมือนกับ The Witcher 2 ที่เราได้ปล่อยตัวเกมออกมาโดยที่ไม่มีระบบป้องกันการเจาะเถื่อนอะไรเลย ดังนั้นในวันแรกที่ซื้อคุณสามารถโหลดเกมจาก Gog และส่งต่อให้เพื่อน หรือใครก็ได้ผ่านทาง Memory Stick อีกฝ่ายก็เล่นได้แล้ว แต่พวกเราก็ยังทำยอดขายเกมได้เกือบจะ 10…
Konrad Tomaszkiewicz ผู้กำกับเกม The Witcher 3 : Wild Hunt ได้ยืนยันกับทาง Eurogamer ว่า Blood and Wine จะเป็น Expansion ตัวสุดท้ายสำหรับเกมนี้อย่างแน่นอน โดยที่จะไม่มีเนื้อหาใหม่ๆหลังจากนี้อีกต่อไป และเตรียมตัวที่จะย้ายไปพัฒนาเกม Cyberpunk 2077 แทน “นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำให้กับเกมนี้ก่อนที่เราจะไปตั้งมั่นอยู่กับการพัฒนา Cyberpunk” เขากล่าวกับ Eurogamer อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติม แต่การแก้ไขบั๊ก รวมถึง Patch จะยังคงสนับสนุนให้แก่ผู้เล่นอยู่ โดยเขาได้เสริมว่า Patch ตัวใหม่จะออกก่อนที่ Blood and Wine จะเปิดให้เล่น และอาจจะมี Patch อื่นๆตามมาหลังจากนั้นอีก Blood and Wine เป็น Expansion เสริมที่จะเพิ่มเติมพื้นที่ใหม่ๆในเกมให้ได้สำรวจ,เพิ่ม Quest ใหม่, อาวุธ และ การ์ด Gwent ใหม่ๆ…
หลังจากที่ The Witcher 3: Wild Hunt ได้รับรางวัลไปกว่า 250 รางวัล และได้ขึ้นหิ้งเป็น Game of the Year ประจำปี 2015 ในการนี้ Marcin Iwiński ประธานบริษัท CD Projekt Red ก็ได้เปิดเผยว่าต้องการที่จะมั่นใจว่าเกมของทางค่ายในอนาคต จะได้รับความสนใจและการต้อนรับในระดับเดียวกันนี้ ที่น่าสนใจคือทาง CD Projekt Red อยากจะดำเนินรอยตามแนวคิดการพัฒนาเกมแบบค่าย Rockstar!! เรื่องนี้เปิดเผยขึ้นในการพูดคุยในสัมภาษณ์กับ Matthew Handrahan แห่งเว็บ Gamesindustry.biz ที่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับความสำเร็จของ The Witcher 3: Wild Hunt ที่ได้กวาดรางวัลมาได้กว่า 250 รางวัล และพูดคุยเรื่องทัศนคติที่จะผลักดันการพัฒนาเกมไปข้างหน้าในอนาคต ซึ่งทาง Iwiński ก็ได้เปิดเผยว่า กุญแจสำคัญ คือ การตั้งมั่นในการใช้ทีมงานจำนวนมาก ในการพัฒนาเกมเพียง 1-2 เกมเท่านั้น…