เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา Microsoft ประกาศช็อควงการเกมด้วยการสั่งปิดสตูดิโอ Tango Gameswork หนึ่งในสตูดิโอในเครือของ Bethesda ผู้สร้างผลงานอย่าง The Evil Within, Ghostwire: Tokyo และล่าสุดคือ Hi-Fi Rush
.
แต่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่เมื่อเดือนที่แล้ว Krafton ผู้ให้บริการเกมของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเจ้าของ PUBG Studios และ Striking Distance ผู้พัฒนา The Callisto Protocol ประกาศเข้าซื้อกิจการ Tango Gameworks รวมถึงแฟรนไชส์ Hi-Fi RUSH ด้วย ที่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการช่วยกอบกู้สตูดิโอผู้พัฒนาเกมแห่งนี้ไว้ได้
.
ล่าสุดจากการสัมภาษณ์กับ Game Developer คุณ Chang-han Kim ประธาน Krafton ออกมาอธิบายถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าซื้อ Tango Gameworks ว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องเงิน” แต่เป็นเรื่องของ “การคงไว้ซึ่งความคิดสร้างสรรค์” และการมีนักพัฒนาของ Tango Gameworks เข้ามาร่วมทีม จะทำให้มีเกมที่หลากหลายมากขึ้น แม้ว่าทีมพัฒนาและเกมเหล่านี้จะไม่ได้ถึงกับทำรายได้ก้อนโตก็ตาม
.
“เราอยากรักษาผลงานต่างๆ ก่อนหน้าของพวกเขาเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในเกมของพวกเขามากนัก แต่เราก็เห็นความคิดสร้างสรรค์มากมายที่มันคุ้มค่าที่จะรับเข้ามา นั่นคือเหตุผลที่เราอยากร่วมงานกับสตูดิโอนี้”
คุณ Kim กล่าว
.
เนื่องจากการย้ายครั้งนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย คุณ Kim จึงไม่ได้เปิดเผยให้สื่อข่าวทราบว่า ใช้งบประมาณในการเข้าซื้อกิจการ Tango Gameworks ไปเท่าไหร่ และกล่าวเพียงว่า “ไม่แพงหรือถูกจนเกินไป”
.
อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนดีลนี้ และเน้นย้ำว่า แม้เกมในอนาคตของ Tango Gameworks จะไม่ทำเงิน แต่เขาก็ต้องการให้ทีมงานกล้าเสี่ยง และผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนลงโทษจากความล้มเหลว
.
“เราไม่สามารถซื้อ Tango Gameworks โดยใช้เพียงข้อมูลทางการเงินหรือตัวเลขยอดขายของพวกเขาได้ใช่มั้ยล่ะ? พูดตรงๆ เลย เราไม่ได้คิดว่า Hi-Fi Rush 2 จะทำเงินให้เราหรือขายดิบขายดี แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของเรา เราต้องพยายามต่อไป [ในการพัฒนาเกม] ด้วยจิตวิญญาณของการท้าทาย
.
Tango Gameworks มีความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาต้องการลองอะไรใหม่ๆ และเราก็อยากทำแบบนั้นมากขึ้น [การสร้าง] วิดีโอเกมเป็นอุตสาหกรรมที่มีเกมออกมาก็ปังบ้างแป้กบ้างอยู่แล้ว และนั่นคือความเสี่ยง แต่การมีโปรเจ็กต์เกมออกมามากขึ้น ก็เป็นวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยง เพราะอาจมีสักเกมที่ออกมาแล้วเวิร์คก็ได้”
คุณ Kim กล่าว
.
คุณ Kim ยังกล่าวเสริมอีกว่า แม้โปรเจ็กต์ของ Tango จะล้มเหลวในแง่ยอดขาย แต่พวกเขาจะยังมีโอกาสที่จะเสี่ยงต่อ และลองอะไรใหม่ๆ จนกว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในที่สุด
.
“เอาแค่ให้คืนทุนการพัฒนาก็พอ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะบอก แต่โดยตัวมันเองก็ถือว่าเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว ถ้าคุณพยายามทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ บางทีคุณอาจจะประสบความสำเร็จล้นหลามในท้ายที่สุด คือผมไม่เชื่อคนที่พูดว่า ‘โอ้ เกมนี้จะออกมาปังแน่ๆ’ ผมอยากได้ใครสักคนที่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ มากกว่า
.
คือทำเกมให้ปัง มันไม่ควรเป็นเป้าหมายของคุณ ถ้าคุณคิดแบบนั้น Hi-Fi Rush ในแง่ของการทำเงินก็เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ติดลบนิดหน่อย แต่ทีมควรได้รับการสนับสนุนให้สร้างอะไรใหม่ๆ และยังคงเดินทางต่อไป เราอยากจะมีทีมแบบนั้นให้มากกว่านี้ภายใต้ร่มเงาของเรา”
คุณ Kim สรุป
.
นอกจากนี้ คุณ Kim ยังยืนยันด้วยว่า การเข้าซื้อกิจการของ Tango Gameworks รวมเฉพาะแฟรนไชส์ Hi-Fi RUSH เท่านั้น ไม่รวมเกมอย่าง The Evil Within หรือ Ghostwire Tokyo เพราะ “ดีลซื้อแฟรนไชส์เหล่านี้ มันซับซ้อนเกินไป”
.
“เราอยากจะช่วยให้ทีมยังคงพัฒนาเกมของพวกเขาต่อไป แต่โดยเฉพาะ Hi-Fi RUSH เมื่อผมคิดถึงแฟนๆ ของเรา ผมคิดว่า พวกเขาสนใจอยากจะได้ภาคต่อของ Hi-Fi RUSH กันจริงๆ”
เขากล่าว
[News] Krafton ยอมรับ ไม่คิดว่า Hi-Fi Rush 2 จะขายดี แต่อยากให้ทีมงานได้เสี่ยงทำเกมเน้นไอเดีย โดยไม่ต้องกลัวล้มเหลว
