จากรายงานผลประกอบการล่าสุดของ Sony ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ผลประกอบการเติบโตอย่างน่าประทับใจ ด้วยยอดขายของเกมแอ็คชันจากแดนมังกรอย่าง Black Myth: Wukong ที่ส่งผลกับผลประกอบการประสบความสำเร็จ แม้ว่า Concord จะออกมาแล้วล้มเหลวก็ตาม
.
โดยแผนก Sony’s Game & Network Services (G&NS) รวมทั้ง PlayStation สามารถทำรายได้กว่า 7,000 ล้าน USD ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณปัจจุบัน (ก.ค. – ก.ย. 2024) ซึ่งถือว่ามากกว่าช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึง 12% และผลกำไรเพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็น 911 ล้าน USD ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึง 184%
.
ซึ่งรายได้ของไตรมาสนี้ มาจากยอดขายของเกมจากสตูดิโอภายนอก และเนื้อหาคอนเทนต์เสริม (อย่างพวก Microtransactions) รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการอย่าง PlayStation Plus ส่วนผลกำไรด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ก็ทำผลกำไรเพิ่มขึ้นเช่นกัน
.
ที่น่าสนใจจากรายงานของ VGC ระบุว่า Sony กล่าวถึง “เกมกีฬาภาคใหม่” (ที่คาดว่าหมายถึง EA Sports FC 25 ที่วางจำหน่ายในเดือน ก.ย.) และ “เกมแอ็คชัน RPG จากประเทศจีน” (แน่นอนว่า น่าจะหมายถึง Black Myth: Wukong) โดยเฉพาะว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ PlayStation ประสบความสำเร็จขนาดนี้ในไตรมาสที่ผ่านมา
.
ซึ่ง Black Myth : Wukong สามารถทำยอดขายมากกว่า 18 ล้านชุด ภายในเวลา 2 สัปดาห์ หลังวางจำหน่ายบน PC และ PS5 และทำรายได้มากกว่า 700 ล้าน USD ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้เกมแอ็คชัน RPG ดัดแปลงจากตำนานไซอิ๋ว กลายเป็น 1 ในเกมที่ขายได้เร็วที่สุดตลอดกาล
.
ในขณะที่ Concord คือเกม FPS แบบ 5v5 ในธีมโจรอวกาศจาก Firewalk Studios ที่วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 ส.ค. แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยยอดผู้เล่นที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน จน Sony ประกาศปิดเซิร์ฟเวอร์ สั่งยุติการขายเกม และสั่งปิด Firewalk ตามมาในภายหลัง
.
Black Myth : Wukong วางจำหน่ายแล้วบน PS5 และ PC
ไม่มีอะไรยอดเยี่ยมเท่าการได้เล่นเกมดีในราคาไม่แพง