[Review] Episode Aigis ภาคเสริมของ Persona 3 Reload ที่ช่วยเติมเต็มตอนจบ และเข้าใจคำตอบของการมีชีวิต

รีวิวโดย แอดมึน ค.
.
Episode Aigis เป็น DLC ภาคเสริมของ Persona 3 Reload ซึ่งรีเมคจากเนื้อหา The Answer ในเกม Persona 3 FES ที่เคยวางจำหน่ายบน PlayStation 2 ปี 2006 เนื้อเรื่องเล่าถึงเหตุการณ์หลังตอนจบของเกมภาคหลักไปได้ไม่นาน ก็เกิดเรื่องประหลาดอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ ช่วงเวลายังคงวนเวียนอยู่ที่ 31 มี.ค. วันเดิมไม่ยอมเปลี่ยน และการมาของ Metis จักรกลต่อสู้ Shadow ปริศนา ที่เรียกตัวเองว่าเป็นน้องสาวของ Aigis ซึ่งเปิดเผยว่า ที่ชั้นใต้ดินของหอพักซึ่งสมาชิก S.E.E.S. พักอาศัยอยู่ มีสถานที่ที่เรียกว่า Abyss of Time ซ่อนอยู่ และเป็นสาเหตุทำให้เวลาคงหยุดนิ่งไม่เดินไปข้างหน้า Aigis และผองเพื่อนทุกคนจึงต้องออกสำรวจกันอีกครั้งเพื่อค้นหา “คำตอบ” ทั้งสาเหตุที่เกิดขึ้น และ “ความหมายของชีวิต” ของพวกเขา
.
ใน Episode Aigis ผู้เล่นจะได้เล่นเป็น Aigis หนึ่งในตัวละครหลักของ Persona 3 ซึ่งเกิดเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้เธอกลายเป็น Wild Card ที่สามารถเพิ่มและสับเปลี่ยน Persona ได้ตามใจนึกเหมือนกับตัวเอกในภาคหลัก ซึ่งเนื้อเรื่องจะโฟกัสไปที่ตัว Aigis เป็นหลัก และด้วยความที่เป็นเนื้อเรื่องเสริมที่ไม่ได้เกี่ยวของกับตัวเอกใน Persona 3 ข้อมูล Progress ของภาคหลักจึงไม่ได้ย้ายตามมาใน Episode Aigis ทำให้ผู้เล่นจำเป็นจะต้องฟาร์มเลเวลและไล่เก็บ Persona ใหม่ โดยเหตุผลในทางเนื้อเรื่องคือ หลังเหตุการณ์ในภาคหลักจบลง สมาชิกทุกคนอยู่ๆ ก็เหมือนลืมวิธีการต่อสู้ไปเกือบหมด แม้จะเป็นเหตุผลที่ดูเอ๊ะไปหน่อย แต่ก็พอเข้าใจได้ในแง่ความเป็นเกม
.
ดันเจี้ยนใน Abyss of Time มี 7 ด่านจำนวนชั้นรวมทุกด่านทั้งหมด 148 ชั้น แต่ละชั้นจะมีเส้นทางที่ซับซ้อน มีโอกาสสุ่มเจอทั้ง Monad Doors และ Shadow Hands สีทองหายาก ซึ่งดรอปไอเทมที่จำเป็นต่อการเล่น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธชุดเกราะติดสถานะ วัตถุดิบสำหรับคราฟต์ไอเทมพิเศษ และไอเทมบางชิ้นที่ใช้ปลดล็อกเนื้อเรื่องย่อยของเพื่อนในทีมแต่ละคน เพื่ออัปเกรดความสามารถของตัวละครคนนั้นเพิ่ม
.
ด้วยความที่ Episode Aigis ไม่มีระบบ Social Links ไม่มีกิจกรรมที่ต้องทำเพื่อเพิ่ม Social Stats ตัวเกมมีเพียง 3 สถานที่ให้เดินได้เพียงในหอพัก ในเมือง และ Abyss of Time ทำให้เกมเพลย์จะเน้นลงดันเจี้ยน สำรวจ และต่อสู้เป็นส่วนมาก ซึ่งภาคนี้มีความท้าทายกว่าภาค Reload อย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจะเล่นด้วยโหมด Peaceful ซึ่งเป็นความยากระดับเล่นง่ายสุด หลายครั้งที่แอดรีบเล่นแบบไม่คิดให้รอบคอบดีๆ ก็ทำให้ทีมเวลาและเสีย SP ไปไม่ใช่น้อย
.
และเท่าที่สังเกต เงินจะไม่ได้ดรอปหลังจบการต่อสู้เหมือนที่ผ่านมา ทำให้บางครั้งในช่วง Shuffle Time ที่ต้องเลือกไพ่เพื่อรับของรางวัล เราจำเป็นต้องเลือกเงินไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีพอซื้อไอเทมหรือฟิวชั่น Persona เลย (แต่ยังดีที่ช่วงหลังๆ เรายังสามารถเอาไอเทมไปขายในเมืองได้) ซึ่งเท่าที่แอดได้เล่นมา เกมนี้เน้น Grinding หรือฟาร์มหนักกว่าภาค Reload ต้องใช้และความอดทนระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงกับยากซะจนเล่นไม่ได้เลย ซึ่งได้อารมณ์แบบเกม JRPG ยุค 90 อยู่ไม่น้อย
.
ในส่วนของเนื้อเรื่อง เนื่องจากแอดยังไม่เคยเล่น The Answer ซึ่งเป็นภาคต้นฉบับของ Episode Aigis มาก่อน จึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้ แต่จากที่แอดได้เล่นมาตั้งแต่ต้นจนจบ แอดรู้สึกประทับใจการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ Aigis เป็นอย่างมาก แม้เธอจะถูกสร้างขึ้นมาในฐานะอาวุธต่อต้าน Shadow แต่เธอก็ไม่ได้เป็นแค่เครื่องจักรกล แต่เธอก็มีหัวใจ มีความสุข ความเสียใจ และความฝันเช่นเดียวกับเพื่อนๆ และมนุษย์คนอื่นๆ
.
เช่นเดียวกับ Metis ตัวละครใหม่ที่ปรากฏตัวในภาคนี้ ก็มีคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจ เธอดูเหมือนเป็นตัวอันตราย แต่ความจริงคือ เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง Aigis ผู้ที่เธอเรียกว่าพี่สาว ซึ่งความเป็นมาของเธอก็เป็นปริศนา ไม่รู้แน่ชัดว่ามาได้อย่างไร ถ้าอยากรู้ก็ต้องเล่นไปลึกๆ จึงจะได้รู้ความลับนี้
.
การดำเนินเรื่องในช่วงท้าย ก็ทำให้ได้ใคร่ครวญว่า ถ้าหากเราต้องอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน เราจะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต หรือจะมูฟออนต่อไป ซึ่งนั่นคือหัวใจสำคัญของ Episode Aigis คือการหาคำตอบของการมีชีวิต
.
ถึงกระนั้น แม้เนื้อเรื่องมันจะชวนติดตาม แต่ส่วนตัวแอดรู้สึกว่าดันเจี้ยนในภาคนี้ใช้ธีมด่านและศัตรูซ้ำไปมา จนรู้สึกจำเจ จนช่วงหลังๆ ก็มีความน่าเบื่อพอประมาณ บางครั้งแอดไม่ค่อยอยากสู้กับ Shadow ข้างทางถ้าไม่จำเป็นจริงๆ หรือหาประตูแดงเก็บไอเทมสักเท่าไหร่ เลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยงเพราะรู้สึกเสียเวลา ที่ต้องใช้เวลาไป 12 ชั่วโมงกว่าๆ กว่าจะมาถึงเนื้อเรื่องส่วนสำคัญตามที่ได้ว่าไว้
.
Episode Aigis เป็นภาคเสริมที่ช่วยเติมเต็มให้ Persona 3 Reload จบสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพราะช่วยขยายความในส่วนของตอนจบที่อาจจะดูค้างคาใจให้เคลียร์ขึ้น ทำให้รู้สึกว่าโลกนี้ยังมีความหวัง ไม่ได้มีแต่ความโหดร้าย แม้เกมเพลย์อาจจะมีบางช่วงที่ดูจำเจไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังเป็นเกมที่มีความสนุก ไม่ได้แย่จนไม่น่าเล่นเลย เป็นอีกเกมที่คนเล่น Reload จบแล้ว น่าหามาเล่นต่อถ้ามีโอกาส
.
Persona 3 Reload วางจำหน่ายแล้วบน PS4, PS5, XBSX|S และ Steam รวมถึงเปิดให้เล่นบน Game Pass
.
อนึ่ง ขอขอบคุณทาง SEGA สำหรับการสนับสนุนคีย์เกมในการรีวิว มา ณ ที่นี้ด้วย

Sheapgamer Comments

แสดงความคิดเห็น