FireWo Games ผู้พัฒนา The Bustling World เกมแอ็คชัน RPG แบบ Co-op ในดินแดนจีนโบราณ Open World เปิดเผยเกี่ยวกับเกมเพลย์และเบื้องหลังการออกแบบเกมในนิตยสาร VGMag ของอิตาลี ที่ทำให้ผู้เล่นได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเกมมากยิ่งขึ้น โดยสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้
– เกมนี้จะดำเนินเรื่องราวโดยเน้นไปที่ “ตัวละครเดียว” ในโลกเปิดกว้างแบบ Sandbox เมื่อผู้เล่นไต่เต้าจนกลายเป็นเจ้าเมืองแล้ว ระบบบริหารสร้างเมืองและป้อมปราการก็จะเริ่มขึ้น ซึ่งจะมีความแตกต่างจากเกมสร้างเมืองอื่นๆ ที่ใช้มุมมองจากที่สูงลงมาข้างล่าง (แบบ City Skyline, Civilization) แต่จะเป็นมุมมองของตัวผู้เล่นเอง
.
– ทีมงานออกแบบเกมเพลย์มาอย่างน้อย 10 แบบ และเป็นงานที่ยากที่สุด พวกเขาพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้เสียอรรถรสความเป็นอิสระของแนว Sandbox และกระตุ้นให้ผู้เล่นได้ค้นพบกลไกการเล่นและนำมาผสมผสานการเล่นเข้าด้วยกันเอง
.
– ทีมงานได้รับคำถามอยู่บ่อยครั้งว่า เกมนี้คล้ายกับเกมอะไรมากที่สุด พวกเขาตอบว่า คล้าย Stardew Valley กับ Mount and Blade และ Civilization แต่แทนที่จะเอาทั้ง 3 เกมดังกล่าวมารวมกันอย่างตรงๆ พวกเขาเลือกที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่แบบ Open World ที่ตัวละคร NPC ทุกคนสามารถโต้ตอบกันและกันได้ และบ้านทุกหลังสามารถเข้าไปได้
.
– NPC ทุกคนมีการตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้เล่น เช่น ถ้าผู้เล่นเข้าไปขโมยของตอนกลางคืน ก็จะตกเป็นข่าวในวันรุ่งขึ้น และมีติดใบประกาศจับที่ศาลาว่าการเพื่อเตือนภัยว่ามีโจร เป็นต้น
.
– เมื่อผู้เล่นกลายเป็นเจ้าเมือง ชาวบ้านชาวเมืองต่างๆ จะย้ายเข้ามาในเมืองโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างบ้านและประกอบอาชีพต่างๆ ซึ่งที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทจะให้ค่าโบนัสต่างๆ ที่แตกต่างกันกันออกไป เช่น ถ้าผู้เล่นได้เป็นเจ้าของจวนนายพล ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ให้กับกองทัพของผู้เล่น
.
– ในฐานะเจ้าเมือง ผู้เล่นสามารถเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง และสามารถโน้มน้าวชักจูงให้ชาวเมืองระดับสูง ย้ายมาอยู่เมืองของผู้เล่นได้
.
– ผู้เล่นจำเป็นต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะและสิ่งรักษาความปลอดภัยแก่ชาวเมือง เช่น หอสังเกตการณ์เพื่อป้องกันอัคคีภัย เพราะหากเกิดไฟไหม้, โจรกรรม หรืออาชญากรรมขึ้น ไม่เพียงแต่ส่งผลให้ผลผลิตลดลงหรือได้รับ Debuff แต่ยังทำให้ชาวเมืองย้ายหนีอีกด้วย
.
– มุมมองของ NPC ที่มีต่อผู้เล่นทั้งก่อนและหลังเป็นเจ้าเมืองจะไม่ค่อยเปลี่ยนไปมากนัก แต่ถ้าผู้เล่นเป็นคนโหดร้าย NPC ก็อาจจะหวาดกลัวที่เห็นเจ้าเมืองหรือเข้าทำร้าย แต่ถ้าเป็นคนดีก็จะได้รับการต้อนรับและการสรรเสริญ
.
– ถึงเกมจะเปิดอิสระให้ผู้เล่นทำอะไรก็ได้ แต่เกมก็ไม่สนับสนุนให้ผู้เล่นใช้ความรุนแรงหรือพฤติกรรมที่ชั่วร้าย โดยแทนที่จะเป็นการจำกัดการกระทำด้วยค่าตัวเลข เช่น ระบบค่าศีลธรรมหากเหลือ 0 จะกระทำบางอย่างไม่ได้ ทีมงานได้ออกแบบระบบกฎหมายและปฏิกิริยาตอบสนองของ NPC เพื่อยับยั้งการกระทำที่รุนแรงของผู้เล่น
.
– ระบบกฎหมายในเกมคือ หากผู้เล่นก่ออาชญากรรม แล้วมีพยานอยู่บริเวณนั้น พวกเขาจะไปฟ้องมือปราบ และผู้เล่นก็จะโดนจับกุม แต่ผู้เล่นก็มีทางเลือกที่จะให้หลุดรอดจากได้ ขึ้นอยู่กับระดับการทำอาชญากรรม หากผู้เล่นเป็นเจ้าเมือง กฎหมายก็จะทำอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าเมืองไม่ถูกผูกมัดโดยกฎของเมือง แต่พฤติกรรมชั่วร้ายผิดจรรยาบรรณของผู้เล่น ก็ยังส่งผลต่อมุมมองและการตอบสนองของชาวเมืองอยู่ดี
.
– NPC มีภูมิหลัง ความสัมพันธ์ ความชอบ และจะมีการสนับสนุนโดยเฉพาะให้กับผู้เล่นเป็นของตัวเอง เช่น เจ้าของบ่อนสามารถสอนวิธีโกงให้ผู้เล่นได้, ผู้อาวุโสพรรคทานตะวันสามารถช่วยเพิ่มทักษะการโจรกรรมได้, NPC ที่เชี่ยวชาญการผลิตอาจปลดล็อกโต๊ะสำหรับการสร้างของบางชนิดให้ผู้เล่นได้ เป็นต้น
.
– The Bustling World ไม่มีเนื้อเรื่องหลัก ผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทางใดก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ผู้เล่นอยากจะเข้าสู่วิถีแห่งเจ้าสัว หรือเป็นนักสำรวจไขปริศนาล่าสมบัติ หรือเดินทางทั่วแคว้นเพื่อเป็นหนึ่งในยุทธภพก็ย่อมได้ แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด ผู้เล่นก็มีหนทางที่จะเป็นเจ้าเมืองเช่นกัน อาทิ ผู้เล่นที่ไปทางสายเจ้าสัว อาจจะหาทางปลดล็อกการซื้อตำแหน่งอย่างเป็นทางการ การสละตำแหน่งอย่างมีเมตตา และทักษะวิชาวรยุทธ์นอกรีตระดับสูง
.
– เมื่อผู้เล่นกลายเจ้าเมืองแล้ว ผู้เล่นยังสามารถสร้างผลผลิตและได้รับชัยชนะในด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนากองทัพ ใช้กำลังพลเข้ายึดเมืองต่างๆ หรือจะพัฒนาทางการค้า แล้วมีพันธมิตรอย่างสันติก็ได้
.
– ทีมงานใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาการประสานกราฟิกระหว่าง 2 มิติและ 3 มิติ เพื่อแสดงพื้นผิวงานศิลปะบนเสื้อผ้า และแสดงเอฟเฟกต์บนผ้าของเสื้อคลุมกับแขนเสื้อได้อย่างสมบูรณ์ แทนการใช้เทคนิคการริกเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม
.
– ตัวเกมรองรับการเล่นแบบ Co-op ผู้เล่นหลายคนได้ โดยผู้เล่นสามารถเชิญคนอื่นๆ มาเล่นด้วยกันได้ และสามารถแบ่งหน้าที่ทำงานต่างๆได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำงานเดียวกัน เช่น คนหนึ่งเปิดร้าน อีกคนดูแลบ้าน คนหนึ่งออกไปสำรวจ อีกคนหาเสบียง ถ้าคนหนึ่งต้องทำการรบ คนที่เหลือก็อาจไปช่วยเหลือชาวเมือง และบริหารจัดการบ้านเมืองได้ เป็นต้น
.
– NPC บางคนสามารถมาเป็นเพื่อนหรือคนสนิทของผู้เล่นได้ ผู้เล่นอาจสามารถขอให้พวกเขาช่วยสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก หรือจัดเตรียมสินค้าเพื่อขายในร้านค้า หรือส่งพวกเขาไปตั้งรกรากเพื่อไปบริหารเมืองที่ถูกยึดครองก็ได้
.
The Bustling World มีกำหนดวางจำหน่ายบน Steam ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
