[News] ผู้กำกับเผย เดิมทีตั้งใจทำ Final Fantasy Tactics เป็นแนว RPG ผสม RTS แต่หัวหน้าบอก “ไม่เอา”

เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปีของการวางจำหน่าย Final Fantasy Tactics เกมภาคสปินออฟของ Final Fantasy ที่เปลี่ยนรูปแบบจากแนว RPG กลายเป็นเกม RPG กึ่งวางแผนการรบ ทำให้คุณ Yasumi Matsuno ผู้กำกับของเกมออกมาเปิดเผยภาพในรูปแบบดั้งเดิมที่เคยคิดไว้ ก่อนที่จะมาเป็น Final Fantasy Tactics
.
โดยต้นแบบก่อนหน้าของ Final Fantasy Tactics ไม่ใช่แนว Turn-based อย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ แต่เป็นเกม RPG กึ่งวางแผนแบบเรียลไทม์ ซึ่งคุณ Matsuno เคยเปิดเผยก่อนหน้านั้นแล้ว เมื่อปี 2018 ในระหว่างสตรีมมิ่งโปรโมตกิจกรรมจับมือกับ Final Fantasy 14 แต่ครั้งนี้เขาเปิดเผยรายละเอียดที่ทำให้ผู้เล่นได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
.
“นี่เป็นภาพตัวอย่างจากเมื่อช่วงต้นปี 1996 เราหวังว่าจะพัฒนาต่อด้วยเป้าหมายที่จะสร้างเกม RTS แบบ ‘Ogre Battle: The March of the Black Queen’ แต่น่าเสียดายที่ไอเดียนี้ถูกพับเก็บ และสุดท้าย Final Fantasy Tactics ก็กลายมาเป็นรูปแบบอย่างทุกวันนี้ ซึ่งอุปสรรคใหญ่ในตอนนั้นก็มาจากความละเอียดของ PlayStation ในตอนนี้ทำได้แค่ 256×224”
คุณ Matsuno อธิบาย
.
ซึ่งก่อนหน้าที่จะย้ายมา Square (ในยุคนั้นที่ยังเป็น Squaresoft และไม่รวมกับ Enix) คุณ Matsuno เคยอยู่ Quest Corporation และเป็นผู้กำกับ Ogre Battle ที่สุดท้ายสมาชิกหลักๆ ของสตูดิโอก็มารวมเข้ากับ Square ในขณะที่ Ogre Battle เป็นเกมแนว RPG ผสมวางแผน RTS ที่คุณควบคุมยูนิตแบบเรียลไทม์บนแผนที่สนามรบ และเมื่อเจอศัตรู คุณก็จะเข้าสู่ฉากการต่อสู้ในสไตล์เกม RPG และตัวละครจะโจมตีโดยอัตโนมัติ แต่คุณก็มีความสามารถจำกัดในการกำกับควบคุมการโจมตีของยูนิต และให้บัฟเพิ่มโดยใช้ไพ่ทาโรต์
.
โดยคุณ Matsuno กล่าวเสริมว่า นี่เป็นเพียงแค่ภาพตัวอย่างเพื่อใช้ในการวางแผนการพัฒนาเท่านั้น และไม่ได้พัฒนาเพื่อลง PlayStation จริงๆ ดังนั้น ภาพเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่ภาพจำลอง ซึ่งก็ไม่ชัดเจนว่า เกมในเวอร์ชันนี้ได้รับการพัฒนาไปมากขนาดไหน แต่ก็พอจะเดาได้ว่า รูปแบบเกมก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก Ogre Battle เต็มๆ
.
แล้วเหตุผลว่าทำไม Final Fantasy Tactics ถึงกลายเป็นเกม RPG วางแผนการรบ Turn-based อย่างทุกวันนี้ มันก็เรียบง่ายมากๆ
.
“หัวหน้าผมบอกว่า ‘ไม่เอาแบบนี้!’ มันก็เลยยากที่จะโต้แย้ง Final Fantasy Tactics ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ในท้ายที่สุด ถึงผมจะแย้งอะไรไปไม่ได้ แต่ก็สงสัยเหมือนกันว่า ถ้าได้ทำเกมในเวอร์ชันนี้จนเสร็จจะออกมาเป็นยังไงนะ และถ้าผมจะขอพูดถึงอะไรอย่างหนึ่ง มันก็คือฉากอีเวนต์ที่โชว์ในภาพตัวอย่างนี่ ผมเองอยากจะทำให้มันกลายเป็นเกมจริงๆ”
เขาอธิบาย

Sheapgamer Comments

แสดงความคิดเห็น