คุณ Paweł Sasko หัวหน้าทีมนักออกแบบภารกิจของ Cyberpunk 2077 ออกมาเปิดเผยว่า เสียงตอบรับแง่ลบของตัวเกมหลักในตอนที่วางจำหน่ายวันแรก เป็นปัจจัยที่ช่วยในการพัฒนา Phantom Liberty และส่งผลให้ Expansion แรกของเกม ออกมาประสบความสำเร็จ เพราะมันทำให้ทาง CD Projekt Red ต้องเปลี่ยนวิธีการพัฒนาเกมไปเลย และสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ต่อ Phantom Liberty ด้วย
.
โดยคุณ Sasko ให้สัมภาษณ์กับทาง The Gamer ในงาน Gamescom Latam และหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาในตอนที่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเจ็บปวดของการทำงานในอุตสาหกรรมเกม รวมถึงการยกเลิกการพัฒนาเกม และเกมที่เปิดตัววางจำหน่ายแล้ว โดนวิจารณ์ยับเยิน
.
“Phantom Liberty ออกมาดีขึ้นกว่าเดิม ในตอนที่วางจำหน่ายวันแรกอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเราเปลี่ยนวิธีการพัฒนาเกมไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งสิ่งนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้เสียงตอบรับแง่ลบอย่างล้นหลามในช่วงเริ่มต้น [ของ Cyberpunk 2077 เกมหลัก] มันเปลี่ยนแปลงผมและพวกเราในฐานะสตูดิโอไปเลย”
คุณ Sasko กล่าว
.
ซึ่ง Cyberpunk 2077 ในตอนที่วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2020 แม้ว่าจะได้เสียงตอบรับจากสื่อไปในทางที่ดีมากๆ แต่ด้วยการที่ตัวเกมที่ทาง CD Projekt Red ส่งให้สื่อรีวิว เป็นเวอร์ชัน PC ทำให้ไม่มีใครรู้ว่า ตัวเกมบนคอนโซล โดยเฉพาะบน PS4 และ XB1 “ยับ” แค่ไหน และทำให้เกิดกระแสตีกลับจากผู้เล่นอย่างรุนแรง จนถึงขนาด Sony ต้องถอดถอนตัวเกมออกจากร้านค้า PlayStation Store เป็นการชั่วคราวเลยทีเดียว
.
หลังจากนั้น ทางทีมงาน CD Projekt Red ก็ออกอัปเดต Patch แก้ไขตัวเกมหลายครั้งเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่ง Phantom Liberty วางจำหน่ายในปี 2023 พร้อมกับอัปเดต 2.0 ที่ได้เสียงตอบรับจากทั้งสื่อและผู้เล่นไปในทางที่ดี และที่สำคัญคือ มันสามารถเล่นได้ดีมากๆ ตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย จนทำให้แฟนๆ จำนวนมาก ถึงกับบอกว่า นี่เป็น 1 ในเกมที่กลับมาผงาดได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดของวงการเกมเลยทีเดียว
[News] กระแสแง่ลบของ Cyberpunk 2077 ทำให้สตูดิโอเปลี่ยนวิธีการพัฒนาเกม จน Phantom Liberty “ออกมาดีมากๆ”
