Ubisoft มีแผนที่จะเร่งพัฒนาและผลักดัน 3 แฟรนไชส์เกมฟอร์มยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของตัวเองให้ก้าวไปไกลยิ่งขึ้น

เมื่อไม่นานมานี้ ทาง Ubisoft ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับทาง Tencent มูลค่าสูงถึง 1,200 ล้าน USD โดยทาง Tencent จะได้หุ้น 25% ของบริษัทย่อยแห่งใหม่ของ Ubisoft เป็นการแลกเปลี่ยน ซึ่งบริษัทย่อยแห่งใหม่นี้ จะแยกออกจากหน่วยหลักของ Ubisoft โดยจะรับหน้าที่พัฒนาและสร้างเกมของ 3 แฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ของ Ubisoft คือ Assassin’s Creed, Rainbow Six และ Far Cry

ล่าสุดสตูดิโอเกมรายใหญ่จากฝรั่งเศสราย เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความทะเยอทะยานสำหรับอนาคตของตนเองแล้ว

โดยรายงานผลประกอบการล่าสุดของปีงบประมาณ 2025 ทาง Ubisoft ชี้ว่า พวกเขาจะ “มุ่งมั่นในการสร้างระบบนิเวศของแบรนด์ที่สามารถกลายเป็นแฟรนไชส์ระดับ 1,000 ล้าน Euro ได้อย่างยั่งยืน”

ซึ่งแผนดังกล่าวของทาง Ubisoft รวมถึง การปรับปรุงประสบการณ์การเล่นที่ขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่องเล่นคนเดียว ให้มีคุณภาพดีขึ้น, ขยายการนำเสนอเกม Live Service ให้มีฟีเจอร์ต่างๆ มากขึ้น และอัปเดตเนื้อหาคอนเทนต์บ่อยขึ้น, ยกระดับการสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ให้ดีขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ Ubisoft, ขยายตลาดไปยังมือถือและประเทศจีน

แม้ว่าแผนดังกล่าวทาง Ubisoft ไม่ได้เปิดเผยว่า พวกเขาอยากจะให้ทั้ง 3 แฟรนไชส์หลัก แต่ละแฟรนไชส์ทำเงิน 1,000 ล้าน Euro ต่อปีหรือไม่ แต่ในการประชุมรายได้ล่าสุด คุณ Yves Guillemot ประธาน Ubisoft ออกมายืนยันและกล่าวว่า แฟรนไชส์แรกที่จะได้รับการยกเครื่องใหม่และมุ่งเน้นเป็นพิเศษคือ Rainbow Six

“สิ่งที่พวกเราต้องการคือ การทำให้ 3 แบรนด์ใหญ่เหล่านี้ กลายเป็นแบรนด์ระดับรายได้พันล้าน Euro ต่อปี เริ่มต้นที่ Rainbow Six ตามมาด้วย Assassin’s Creed และหลังจากนั้นคือ Far Cry ที่จะต้องไปให้ถึงระดับหลายพันล้าน Euro ก่อนเป็นอันดับแรก”

นอกจากนี้ ทาง Ubisoft ยังต้องการทำให้แฟรนไชส์ Ghost Recon และ The Division รวมถึง The Crew เติบโตไปด้วย

ที่มา

• Facebook
• X
• Line