ตอนนี้ Skyrim Special Edition หรือตัว Remastered ของ Skyrim ก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วทั้งบน PS4, Xbox One และในเว็บสตีม ซึ่งตัว Special นี้จะเป็นตัวเกม Skyrim พร้อม DLC 3 ตัวที่อัพเกรดกราฟฟิกให้ดีขึ้นและรันที่ 64 Bits รวมถึงมีการสนับสนุนการม็อดด้วยสำหรับบนคอนโซล
แต่ดูเหมือนว่าตัวเกมจะเปิดตัวบน PC ได้ไม่ราบรื่นเท่าไหร่ เพราะมีหลายคนเจอปัญหาหลากหลายรายการไม่ว่าจะเป็นอาการแครชตอนเปิดเกม ,รันได้แต่เฟรมเรทต่ำเตี้ยเรี่ยดิน, ล๊อค 30 fps , เข้าเกมไม่ได้, เข้าแล้วเจอจอดำ และอีกหลากหลายปัญหา ซึ่งหากใครเจอปัญหาดังกล่าวก็ลองแก้ไขด้วยวิธีดังนี้ น่าจะพอช่วยได้บ้าง
1: เปิดเกมไม่ติด
โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Windows ที่สูงกว่า Windows 7 จะเจอปัญหานี้กัน วิธีแก้คือให้หาไฟล์ “skyrimSE.exe และ skyrimSELauncher.exe”ที่อยู่ในโฟลเดอร์เกม (คลิกขวาที่ชื่อเกมใน Library Steam เลือก Properties > Local Files > Browse Local Files ก็ได้)
- คลิกขวาที่ไฟล์ดังกล่าว
- เลือก Properties
- เลือกที่ Compatibility
- ตั้งให้เป็น Windows 7 compatibility mode
- จากนั้นคลิกขวาที่ไฟล์ดังกล่าว แล้วเลือก Run as Administrator
2: ขึ้นจอดำตอนเริ่มเกม
เป็นปัญหาสำหรับหลายคนที่เจอกันเยอะมาก กับการเข้าเกมแล้วไม่มีภาพขึ้น หรือขึ้นเป็นจอสีดำมีแต่เสียงเพลงขึ้นเท่านั้น วิธีแก้ไขสำหรับผู้ที่ใช้การ์ดจอ Nvidia ให้เข้าไปที่ Control Panel แล้วเปลี่ยนเป็น GPU ที่ใช้อยู่
3: ข้ามอินโทรโลโก้ Bethesda
อันนี้สายม็อดน่าจะแก้ไข เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งดูโลโก้ทุกครั้งที่เข้าเกม ให้เปิด Notepad (หรือโปรแกรม text editor อื่นๆ) จากนั้นเลือก file > save แล้วตั้งชื่อว่า BGS_Logo.bik จากนั้นเข้าไปที่โฟลเดอร์เกม และเข้าที่โฟลเดอร์ Video (ปกติจะเป็น steamapps\common\Skyrim Special Edition\Data\Video ) จะเห็นไฟล์ BGS_Logo.bik เดิม ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์นี้เป็นชื่ออื่น (เผื่อว่ามีปัญหาจะได้ใส่กลับคืนได้ อย่าไปลบ) แล้วนำไฟล์ที่เราสร้างเมื่อครู่มาใส่ไว้แทนที่
4: ย้ายเซฟเกมจาก Skyrim เดิมมาเล่นต่อใน Skyrim Special Edition
เข้าไปยังโฟลเดอร์ที่บรรจุเซฟเกมเดิมของเรา ใน My Documents (ปกติจะอยู่ใน C:\Users\[Username ของคุณ]\Documents\My Games\skyrim\saves จากนั้นให้ย้าย หรือ Copy ไฟล์เซฟที่ต้องการไปไว้ใน C:\Users\[Username ของคุณ]\Documents\My Games\Skyrim Special Edition\saves เมื่อเข้าเกมก็เลือกที่ Load จะมีเซฟเกมเดิมของเราปรากฎอยู่
***สามารถย้ายมาได้แค่เซฟเกมเท่านั้น ส่วนม็อดที่ลงไว้อันนี้ไม่ตามมาด้วย เพราะงั้น เซฟเกมจาก Skyrim เดิมที่ผ่านการลงม็อดมาโดยเฉพาะพวกหน้าตาหรือชุดตัวละคร เมื่อเอามาเปิดใน Skyrim Special Edition แล้วอาจเกิดอาการแครช หรือเปิดไม่ติด หรืออาจเกิดปัญหาเปิดแล้วชิ้นส่วนที่ทำการม็อดเอาไว้หายไป***
5: แก้ไขปัญหาลงม็อดแล้วไม่ปลด Achievement
เป็นระบบน่ารำคาญของเกมเมอร์สายเก็บ Achievement จาก Fallout 4 ที่ถ้าหากลงม็อดใดๆในเกมนี้แล้ว ระบบจะทำการตั้งค่าเซฟเกมเป็น [M] และเมื่อเล่นตามเนื้อเรื่องหรือภารกิจไป จะไม่มีการปลด Achievement ให้ ซึ่งระบบนี้ก็ยังตามมาใน Skyrim Special Edition นี้ด้วย วิธีการแก้ไขก็คือการลงม็อด Achievements Mods Enabler วิธีการคือ โหลดไฟล์มา แล้วนำไฟล์ทั้งหมด ลงไปไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันกับไฟล์ “skyrimSE.exe และ skyrimSELauncher.exe” เท่านี้ก็เรียบร้อย (แต่ตอนเวลาเข้าเล่นจะมีการขึ้นเตือนว่าลงม็อดจะไม่ปลด Achievement ให้ และไฟล์เซฟทั้งหมดจะติด [M] แต่ Achievement จะยังคงทำงานได้ปกติอยู่ ทางทีมแอดมินได้ทดสอบแล้วว่าใช้ได้จริง)
6: เฟรมเรทต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
มีชาวเกมจำนวนหนึ่งเจอปัญหารันเกมได้แต่ก็ได้เฟรมเรที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินใน Skyrim Special edition นี้ซึ่งดูเหมือนว่าตัวเกมจะตั้งค่าให้เริ่มต้นใช้การ์ดจอเริ่มต้น แทนที่จะใช้ GPU ที่เราใช้อยู่ วิธีแก้ให้ทำดังนี้
- คลิกขวาที่ Desktop
- เลือก NVIDIA Control Panel
- เลือก “Manage 3D Settings” อยู่ตรง 3D Settings ทางซ้าย (ตรง Select a task)
- เลือก Program Settings
- ดูรายการในลิสต์ (Select Program to Customize) ถ้ามี Skyrim SE ให้ข้ามข้อถัดไปได้เลย แต่ถ้าไม่มี ให้ดูข้อถัดไป
- กดปุ่ม Add ข้างๆ แล้วหา Skyrim Special Edition ถ้ามีก็กดเลือก แต่ถ้าไม่มีให้ Browse แล้วระบุไฟล์ skyrimSE.exe
- เมื่อเลือกแล้วจะมี Options ให้เปลี่ยน ตรง CUDA/ GPUs ให้เปลี่ยนจาก Global Settings/Integrated Graphics เป็น High-Performance NVIDIA processor หรือ GPU ที่ใช้อยู่
- กด Apply เพื่อบันทึก
- จากนั้นลองเข้าเกม เกมน่าจะรันได้ลื่นขึ้นแล้ว
7: เปลี่ยนสเกลหน้าจอ
สำหรับคนที่ใช้หน้าจอที่สเกลต่างจากหน้าจอปกติ (พวก 21:9 อะไรแนวๆนี้) ให้แก้ไขตามวิธีดังนี้
- ไปที่ C:\Users\[Username ของคุณ]\Documents\My Games\Skyrim Special Edition **ไม่ใช่โฟลเดอร์เกม แต่เป็นโฟลเดอร์เดียวกับเซฟเกม**
- หาไฟล์ “SkyrimPrefs.ini” แล้วคลิกขวาเลือก Edit with Notepad หรือ Text Editor ตัวอื่นๆ
- หาบรรทัดตามนี้
- bFull Screen=
- iSize H=
- iSize W=
- จากนั้นเปลี่ยนความละเอียดตามที่ต้องการ อาทิ
- bFull Screen=1
- iSize H=1024
- iSize W=1280
- จากนั้นเซฟไฟล์นี้ (ถ้าเซฟไม่ติดให้คลิกขวาที่ไฟล์ SkyrimPrefs.ini แล้วปลด Read Only ออก)
- แล้วเข้าเกมก็จะได้ความละเอียดและสเกลตามที่ต้องการ (แต่ห้ามเข้าไปปรับเปลี่ยนความละเอียดใน Option ของ Launcher ให้เปลี่ยนวิธีนี้แทน)
8: เข้าเกม Skyrim Special Edition ไม่ได้หลังจากลงม็อด
- ให้เข้าไปที่โฟลเดอร์เกม ( \steamapps\common\Skyrim Special Edition หรือ คลิกขวาที่ชื่อเกมใน Library Steam เลือก Properties > Local Files > Browse Local Files ก็ได้)
- เข้าไปที่โฟลเดอร์ชื่อ Data จากนั้นลบทุกไฟล์ในนี้ “ยกเว้นไฟล์และโฟลเดอร์ดังนี้”
- โฟลเดอร์ Video
- Dawnguard.esm
- Dragonborn.esm
- Hearthfire.esm
- Skyrim.esm
- Update.esm
- เท่านี้ม็อดก็จะถูกลบออกจากเกม จากนั้นให้ทดลองลงใหม่ มีคำแนะนำว่า อย่าลงม็อดเกิน 5 ตัวในครั้งเดียว กรณีที่ต้องการลงม็อดจำนวนมาก ให้ทยอยๆลงทีละนิดๆแล้วค่อยเข้าเกมดูเป็นระยะๆดีกว่า
9: Skyrim Special Edition มีปัญหาแครช หรือ Stopped working หรือหลุดมาหน้าจอ Desktop บ่อยครั้ง
ให้ปิด “touch keyboard” ใน Windows service (กดปุ่ม WindowsKey ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง ctrl และ alt ด้านซ้าย + ปุ่ม R จากนั้นพิมพ์ services.msc กด enter จากนั้น disable มันซะ)
นอกจากนี้สำหรับคนที่คิดว่าเล่น Skyrim จบไปแล้ว (หรือจะถล่มลงม็อดอย่างเดียวจนไม่เป็นอันได้คิลมังกรสักที) คุณอาจจะถล่ม Alduin อาจจะจัดการกับ Thief’s Guild ไปแล้ว หรืออาจจะได้เป็นขุนนางในทุกๆเมืองและสร้างบ้านไปจนหมดแล้ว แต่ตัวเกม Skyrim นั้นยังมีบอสลับในเกมด้วย ที่ไม่สามารถเจอด้วยวิธีการปกติ โดยมีรายการดังนี้
Vulthuryol
Blackreach นั้นเป็นถ้ำที่อยู่ใต้ Tower of Mzark ที่เต็มไปด้วยเห็ดเรืองแสงสีฟ้า และซากปรักหักพังของหอคอย Dwemer โดยใน Blackreach นี้จะมีบอสมังกรระดับเลเวล 50 ชื่อ Vulthuryol ที่คุณสามารถเรียกมาได้ด้วยการตะโกน Unrelenting Force Thu’um ไปยังลูกโลกใหญ่ที่แขวนอยู่บนเพดานถ้ำ ซึ่งเมื่อเรียกออกมาแล้วคุณไม่ฆ่ามัน มันก็จะทำการกำจัดศัตรูทั้งหมดใน Blackreach จนกว่าคุณจะชักดาบออกมาสู้นั่นแหละ
Karstaag the Frost Giant
หากคุณเคยเล่น Morrowwind มาก่อน คุณอาจจะรู้สึกระลึกถึงบอสในภาคนั้น เพราะเป็นบอสมนุษย์หิมะตัวเดียวกับที่ปรากฎใน Morrowind: Bloodmoon ในครั้งนี้เขามาในรูปแบบวิญญาณ โดยบอสตัวนี้จะอยู่ในซากปราสาท Castle Karstaag ที่จะอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือในเกาะ Solstheim ของ DLC Dragonborn (วิธีไป Solstheim คือจ้างเรือที่อยู่ท่าเรือข้างๆ Windhelm ไปส่ง) ซึ่งคุณจะเจอบัลลังก์ของเขาในถ้ำ Glacial Caveนี้ และถ้าคุณพบกระโหลกของ Karstaag ที่อยู่ด้านหลังถ้ำ ก็ให้นำไปไว้บนบัลลังก์ของเขา แล้ววิญญาณ Karstaag จะปรากฎตัวขึ้น แต่ขอเตือนไว้ว่า เขามีเลเวล 90 และจะจัดการกับคุณถ้าคุณไม่จัดการเขาก่อน
The Reaper
เขาจะปรากฎตัวใน Soul Cairn ที่อยู่ใน Dawnguard DLC โดยเมื่อคุณเข้ามายัง Soul Cairn แล้ว ให้หาชิ้นส่วนอัญมณี Reaper 3 ชิ้น ( Reaper gem fragments ) ที่จะหาได้จากใต้คริสตัลสีม่วง (แต่ต้องระวังหน่อยเพราะมันสามารถดูดพลังชีวิตคุณได้ด้วย) เมื่อคุณได้ครบ 3 ชิ้นแล้วให้นำมันไปวางไว้ที่แท่นใน Reaper’s Lair ก็จะเรียกเขาออกมาได้ โดย Reaper สวมฮู้ดนี้สามารถพ่นสไลม์สีเขียวออกมาพร้อมกับมีลูกกระจ๊อกเป็น Bonemen ความยากในการสู้กับเขาจะขึ้นอยู่กับเลเวลของคุณ ให้เตรียมเก็บสะสมโพชั่น ตีเกราะและอาวุธดีๆไว้ให้พร้อมก่อนเข้าสู้
Ebony Warrior
บอสนี้จะต่างจากตัวอื่นๆ ตรงเขาจะเป็นฝ่ายตามหาคุณเองและต่อสู้กับคุณตัวๆ ซึ่งเขาจะไม่ปรากฎที่ใดเลยจนกว่าคุณจะเลเวลถึง 80 และเมื่อคุณถึงเลเวลนั้นแล้วเขาจะปรากฎขึ้นและตามไล่ล่าสังหารคุณ โดย Ebony Warrior นี้จะมีภูมิคุ้มกัน Shout ต่างๆ และเขาก็มี Perks และความสามารถต่างๆเหมือนคุณ มีความต้านทานการโจมตีด้วยธาตุไฟ ไฟฟ้า และความเย็นถึง 50% และยังร่ายเวท รวมถึงสามารถใช้พลังตะโกนมังกร Disarm และ Unrelenting Force ได้อีกด้วย อาจจะดูเก่งจนน่าจะตึงมือพอสมควรหากจะรับมือกับเขา แต่เมื่อคุณปราบเขาได้ก็จะได้รับชุดเกราะ อาวุธต่างๆของเขาไปใช้ นั่นก็ถือว่าคุ้มค่าไม่เลวเหมือนกัน
Strange orb
อันนี้ไม่ใช่บอส แต่ก็สามารถเจอได้หากคุณอยากเจอ โดย Strange Orb นี้จะอยู่ตรงขอบปลายสุดของแผนที่ฝั่งตะวันออก ที่คุณจะได้เจอ Dwemer ruin of Kagrenzel เมื่อเข้าไปแล้วคุณจะเจอห้องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยซากศพของโจร จะมีแสงประหลาดอยู่ตรงกลางห้อง และเมื่อคุณแตะแสงนั้น…..
ต้นทางไม่ได้บอกว่าจะเจออะไร แต่แนะนำแค่ว่าให้เซฟเกมก่อนที่จะเข้าไปแตะมัน และขอให้สนุกสนาน!!
The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition กำลังลดราคา 15% ใน Gamesplanet เหลือราคา £25.49 หรือประมาณ 1100 บาท(สตีมขาย 1,410 บาท) ส่วน The Elder Scrolls V : Skyrim Legendary Edition ตัวเก่า กำลังลดราคาใน cdkeys เหลือ $ 12.39 ใส่คูปองลด 5% จาก App นี้ เหลือ $11.77 หรือประมาณ 420 บาท
Source : Gamepur , Gamesradar+