รีวิวเกมถูก(แต่มันยังไม่ลดราคา)แบบนึกอะไรได้ก็พิมพ์
วันนี้ขอเสนอ…
เป็นเกมที่ถูกกล่าวถึงมาก ตั้งแต่เกมยังไม่ออก และสร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะทาง Ubisoft Monreal ได้โฆษณาว่าทำเกมนี้ให้มีกลิ่นอายออกมาแบบเกมแนว JRPG ที่หลายๆคนคุ้นเคยกันอย่างพวก Final Fantasy หรือ Secret of Mana ซึ่งปกติเกมฝั่งตะวันตกที่เป็นค่ายใหญ่ๆเขาไม่ค่อยทำกัน ยิ่งทาง Ubisoft ได้ให้ทาง อ.โยชิทากะ อามาโน่ ผู้รังสรรค์ผลงานภาพประกอบ Final Fantasy มาวาดภาพประกอบโฆษณาเกมนี้ ยิ่งทำให้เกมนี้ใกล้เคียงความเป็น JRPG เข้าไปใหญ่ และ Creative Director ของเกมนี้คือ Patrick Plourde ซึ่งก็คือ Creative Director ผู้เคยฝากผลงานอันยอดเยี่ยมอย่าง Far Cry 3 มาแล้ว ทำให้หลายๆคนรวมทั้งแอดมึน สงสัยว่า ส่วนผสมเกมนี้มันมาแบบมึนๆแบบนี้ แล้วตอนเกมออกมาจะเป็นยังไงกันแน่
เนื้อเรื่องของเกมนี้เริ่มต้นคร่าวๆ จากที่จับใจความได้ ว่าเราคือ ออโรร่า เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรแห่งหนึ่ง ที่แม่ของเธอเสียชีวิตลง แล้วพ่อเธอที่เป็นพระราชาก็ได้แต่งงานใหม่ แล้ววันหนึ่งเราหลับแล้วก็ได้ตายลงแบบไม่ทราบสาเหตุ เมื่อเราตื่นขึ้นมาก็พบว่ามาอยู่ในดินแดนที่ไม่รู้จัก นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เราจะต้องหาตามหาพ่อของเธอให้เจอ และออกไปจากดินแดนแห่งนี้ให้ได้
ตัวเกมหลักๆก็จะเป็นเกมแนว Side-Scrolling แก้ปริศนาตามทางเช่น เข็นกล่อง สับสวิตซ์ หมุนโน่นนี่นั่นตามแบบ 2D Side-Scrolling แต่เมื่อเจอศัตรูตามรายทาง ก็จะเปลี่ยนโหมดมาเป็นระบบการต่อสู้คล้ายๆเกม JRPG พวก Final Fantasy คือเป็น Turn-Base สลับกันออกคำสั่ง โดยจะมีเกจให้เกจนึงที่แบ่งเป็น Wait กับ Cast และมีไอคอนเรากับศัตรู ถ้าไอคอนเราไปถึงขีดตรง Cast ก่อน เราก็จะสามารถออกคำสั่งได้ว่าจะโจมตี ใช้ไอเทม ป้องกัน ใช้เวทย์หรือหนี และเมื่อออกคำสั่งแล้วไอคอนเราไปถึงปลายสุดของ Cast ก่อนศัตรูก็จะโจมตีหรือใช้ไอเทมตามที่เราสั่ง แต่ถ้าระหว่าง Cast โดนศัตรูโจมตีก่อนก็จะ Interrupt คือเราจะไม่ได้โจมตีหรือใช้ไอเทมตามที่สั่งไปรวมถึงไอคอนเราจะเด้งกลับไปยังช่อง Wait (ตามความแรงของการโจมตีศัตรู)
ซึ่งเมื่อเราปราบศัตรูได้ก็จะได้รับ XP เพื่อ Level Up และสามารถอัพSkill ต่างๆได้ ตรงนี้ก็คล้ายๆเกมแนว RPG อื่นๆ รวมถึงมีการเก็บผลึกตามรายทางต่างๆเพื่อเอามา Craft เป็นอาวุธได้ด้วย ซึ่งคาดว่าหลังๆน่าจะมีลูกเล่นอะไรมากขึ้น
จุดเด่นหลักๆของเกมนี้น่าจะอยู่ที่ เราจะมีผู้ช่วยชื่อ Firefly เป็นเหมือนลูกไฟอะไรสักอย่าง ที่เราสามารถบังคับให้เขาเปล่งแสงได้ หรือเคลื่อนไหวไปมาได้ด้วยอนาลอกขวา ( อารมณ์คล้ายๆ Brother – The Tales of Two Son) ซึ่งพื้นที่บางที่เป็นที่มืดเราก็สามารถใช้ลูกไฟนี่ล่ะในการส่องให้แสงสว่างเพื่อดูทาง หรือดูด้านในถ้ำได้ แต่ส่องไปสักพักเกจก็จะหมดก็ต้องไปเติมพลังกับดอกไม้แสงสว่างตามรายทางที่เมื่อเราแตะแล้วก็จะมีลูกพลังออกมาให้เติมขีดนี้ให้กับลูกไฟ (และพิเศษหน่อยตรงที่ถ้าเราบังคับลูกไฟนี่ตามลำดับไฟสีส้มสำเร็จก็จะได้ HP , MP เพิ่ม) ยิ่งไปกว่านั้นตามรายทางต่างๆก็จะต้องมีการใช้เจ้าลูกไฟนี่ในการส่องแสงเพื่อให้สะท้อนไปเปิดกลไกต่างๆด้วย เช่น ส่องแสงทะลุกระจกสี ให้แสงสีไปโดนคริสตัล รวมถึงระหว่างต่อสู้เรายังใช้ลูกไฟนี้ช่วยสู้ได้ด้วยการเปล่งแสงทำให้เกจของศัตรู 1 ตัว วิ่งช้ากว่าปกติเล็กน้อย ทำให้เราสามารถโจมตีศัตรูได้ไวกว่า ตรงนี้หากจัดลำดับวางแผนดีๆ เราสามารถเอาชนะศัตรูไปได้โดยศัตรูแทบจะทำอะไรเราไม่ได้เลย หรือหากเจอศัตรูในช่วงที่เป็นโหมด 2D Side-Scrolling ก็สามารถเปล่งแสงเพื่อบังสายตาไม่ให้ศัตรูเห็นตัวออโรร่า แล้วเดินผ่านไปได้เพื่อเลี่ยงการปะทะได้ด้วย
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ภาพ เสียง และบทพูดในเกมที่งดงามประหนึ่งงานศิลป์ชั้นเยี่ยม ภาพในเกมสวยงามแบบภาพสีน้ำ (แม้ตัวออโรร่าในเกมแอดมึนว่าดีไซน์ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ก็เหอะ) เสียงดนตรีประกอบที่ไพเราะตั้งแต่ไตเติล บทพูดในเกมที่ถ้าใครเชี่ยวๆภาษาอังกฤษหน่อยจะเห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่เป็นภาษาพูดปกติ แต่ออกไปทางกึ่งๆกวีหรือภาษาแบบเทพนิยาย อ่านแล้วอินกับโลกทัศน์ของเกมดีจริง
ข้อเสียของเกมนี้เท่าที่นึกออกตอนนี้มีอยู่อย่างเดียวคือ เกมนี้ไม่มี Achievement ใน Uplay เป็นที่น่าเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ยังดีที่มี Actions และ Uplay Reward มาทดแทนให้ราวๆสิบกว่าตัว (อันนี้อาจจะดีกว่า Achievement แต่แอดมึนชอบ Achievement มากกว่านะ)
โดยรวมแล้วกับราคา $14.99 นับว่าค่อนข้างโอเคสำหรับเกมระดับนี้ คือ List Price ไม่แพงมากนัก ตัวเกมสนุก เพลงเพราะ ตัวเกมไม่ยากเท่าไหร่ ปริศนาเห็นแล้วก็พอจะเดาได้ แบบพอเปิดกลไกขยับได้ก็นึกออกเลยว่าต้องทำไงต่อ แต่หลังๆจะน่าเบื่อรึเปล่าก็ยังบอกไม่ได้เหมือนกัน เพราะยังเล่นไปไม่เยอะเท่าไหร่ ที่ดีอีกอย่างนึงคือ เกมนี้มีความจุแค่ 2.5 GB เท่านั้น สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเงินถึง $14.99 ก็สามารถซื้อเกมนี้กับทางเว็บ นายเขียว GMG ได้ ยัดปอง FUSWJT-B1DU64-JBV8UY แล้วเหลือ $12.00 แต่เล่นบน Uplay ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนมากนัก เพราะตัวเกมมันไม่ใหญ่มากนี่ล่ะ (แต่แอดมึนว่าไหนๆก็จ่ายเพิ่มอีก $2 เล่นบนสตีมไปเลยดีกว่านะ)
สรุป
9 / 10
เสพงานศิลป์ในเกมก็คุ้มแล้ว