คุณ Amandla Stenberg ผู้รับบทเป็น Osha ใน The Acolyte ออกมายอมรับบน Instagram ส่วนตัวว่า เธอ “ไม่แปลกใจ” ที่ภาพยนตร์ซีรีส์ Star Wars ของ Disney+ เรื่องนี้ถึงไม่ได้ไปต่อซีซัน 2 โดยระบุว่า สาเหตุมาจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและคำพูดเสียดสีจาก “พวกแฟน Star Wars ที่คลั่งความอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรง” ที่เจอมาตั้งแต่การประกาศตัวนักแสดง
.
“ฉันจะขอพูดตรงๆ ว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรสำหรับฉัน พวกเราโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง มาตั้งแต่ประกาศเปิดตัวซีรีส์นี้ ทั้งที่ตอนนั้นมันยังอยู่ในช่วงที่ยังเป็นแค่คอนเซปต์ และยังไม่มีใครได้ดูตัวซีรีส์จริงๆ ด้วยซ้ำ นั่นคือตอนที่เราเริ่มเจอทัวร์ลงจากพวกอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรง ที่เต็มไปด้วยอคติ ความเกลียดชังและใช้ภาษาที่หยาบคายใส่เรา”
คุณ Amandla กล่าว
.
ทาง Variety ระบุว่า แม้ The Acolyte จะได้เสียงวิจารณ์ไปในทางที่ดีจากสื่อ แต่ตัวภาพยนตร์ซีรีส์กลับโดนถล่มรีวิวแง่ลบจากกลุ่มแฟนๆ ที่ก่อจลาจลในโลกออนไลน์ และโพสต์รีวิวแง่ลบอย่างหนัก ที่มักจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เมื่อมีการประกาศตัวนักแสดงเป็นคนดำ และตัวละคร LGBTQ ซึ่ง The Last Jedi ภาพยนตร์ของปี 2017 ก็เจอกระแสตีกลับอย่างรุนแรงในโลกออนไลน์ก่อนที่จะเข้าฉายเช่นเดียวกัน
.
“เรื่องนี้มันส่งผลกระทบต่อฉันในครั้งแรกที่ได้งานนี้ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถเข้าใจได้ว่าจะรู้สึกอย่างไร จนกว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกว่า ฉันก็มูฟออนจากความรู้สึกเหล่านั้นได้ในหลายๆ แง่ รวมถึงการเป็นกระบอกเสียงให้ตัวเอง มันก็แค่เป็นอะไรที่เถียงไม่ได้สำหรับฉันว่า ณ จุดจุดหนึ่ง เพื่อให้ตัวฉันเองไปต่อได้ ฉันก็ต้องภาคภูมิใจในคุณค่าของตัวเองที่ได้ออกเสียง แม้จะเป็นบริบทของการทำงานกับ Disney ก็ตาม
.
มันก็เป็นเกียรติและความฝันที่น่าเหลือเชื่อสำหรับฉันที่ได้อยู่ในจักรวาลนี้ แน่นอนว่า ฉันเองก็เสียใจที่ซีรีส์ไม่ได้ไปต่อ ฉันแค่อยากจะให้ผู้คนเหล่านั้นได้รู้ว่า มีคนที่สนับสนุนเรา รวมถึงออกเสียงเรียกร้องให้เรา แม้ว่าเราจะโดนเสียงด่าทอในแง่ลบมากขนาดไหน และเป็นเป้าโจมตีจากพวกกลุ่มขวาจัด แต่เฉพาะพวกคุณที่ฉันรักและขอบคุณอย่างสุดซึ้ง และทำให้ทุกช่วงเวลาที่ได้ทำงานนี้คุ้มค่ามากๆ สำหรับฉัน”
เธอกล่าว
.
The Acolyte ฉายแล้วตอนนี้ทาง Disney+
[News] นักแสดง The Acolyte เชื่อว่าที่ซีรีส์ไม่ได้ไปต่อ เพราะโดนพวกขวาจัดลงทัวร์ด้วยอคติตั้งแต่ก่อนฉายแล้ว
