หลายคนอาจจะเคยทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ในตอนนี้เจ้าชาย Mohammed bin Salman มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เป็นเจ้าของ SNK ไปแล้ว หลังจากที่เข้าซื้อกิจการผู้สร้างเกมไฟต์ติ้งซีรีส์ The King of Fighters สำเร็จเมื่อปี 2022 ผ่านทาง MiSK Foundation
.
แต่แทนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของ SNK เพื่อให้ฐานผู้เล่นในฝั่งตะวันตกพึงพอใจ เขากลับเชื่อว่า หัวใจสำคัญของความสำเร็จในอนาคตของบริษัท ก็คือการคงไว้ซึ่ง “อัตลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม”
.
โดยคุณ Kenji Matsubara ประธาน SNK เปิดเผยในงาน 2024 Games Creator Conference และเล่าย้อนความที่เขาได้คุยกับเจ้าชาย bin Salman เกี่ยวกับแผนของเขาสำหรับอนาคตของบริษัท
.
ในตอนนั้น คุณ Matsubara ถามเจ้าชายว่า เขาอยากจะให้ย้าย SNK ไปยังซาอุดิอาระเบียและขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น หรือจะพัฒนาเกมด้วยแฟรนไชส์ของ SNK แล้วนำไปขายในยุโรปและอเมริกาให้มากขึ้น? แต่เจ้าชายยืนยันว่า อยากจะให้ SNK เติบโตในฐานะบริษัทญี่ปุ่น และอยากจะให้กลับมาเฉิดฉายและไปทั่วโลกอีกครั้ง เหมือนตอนช่วงยุคปี 1990s ซึ่งเขาจะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อช่วยให้ SNK บรรลุเป้าหมายนั้นด้วย
.
ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ทาง SNK ยืนยันว่า จะยังคงดำเนินการและพยายามรักษาอัตลักษณ์แบบญี่ปุ่นต่อไป แม้จะโดนซื้อกิจการไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ทาง VGC ก็เคยสอบถามว่า การเข้าซื้อกิจการของ SNK โดย MiSK Foundation จะทำให้ตัวเจ้าชาย bin Salman และความเป็นซาอุดิอาระเบีย มีอิทธิพลต่อการดำเนินการของบริษัทในอนาคตหรือไม่ แต่คุณ Yasuyuki Oda ผู้อำนวยการสร้างเกมซีรีส์ The King of Fighters ยืนกรานว่า “สำหรับเราแล้ว พวกเราก็แค่มุ่งมั่นกับการทำเกม เราไม่ใช่บริษัทการเมืองหรืออะไรแบบนั้น ดังนั้น เรื่องนี้จะไม่มีผลอะไรกับเราไม่ว่าแง่ใดก็ตาม”
.
“มันไม่มีผลอะไรกับการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ในผลงาน พวกเรามีอิสระเต็มที่ในสิ่งที่พวกเราอยากจะสร้าง สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะพูด ก็คือ ผู้ที่เป็นเจ้าของเรา ก็คือแฟนของแฟรนไชส์เกมของเรา และจะเป็นแบบนั้นไปตลอดกาล”
คุณ Oda กล่าวเสริม
ไม่มีอะไรยอดเยี่ยมเท่าการได้เล่นเกมดีในราคาไม่แพง