[News] ผู้กำกับ Metaphor: ReFantazio เผยวิธีเตรียมตัวสร้างโลกของเกมนี้ ด้วยการอ่าน Lord of the Rings

อีกเพียงไม่กี่วัน Metaphor: ReFantazio เกม RPG ผลงานล่าสุดของอดีตทีมสร้างเกมซีรีส์ Persona ก็จะวางจำหน่ายและเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการแล้ว และหลายคนที่ได้ลองเล่นเดโมหรืออ่านรีวิวจะพบว่า เกมนี้มีกลิ่นอายที่ชวนให้นึกถึง Persona อยู่นิดๆ ด้วยเมนูที่ดูมีสไตล์ การต่อสู้แบบ Turn-based และระบบเกมเพลย์ที่ให้ตัวละครผู้เล่นได้สร้างสายสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ ที่แตกต่างกันตรงที่โลกทัศน์ที่ไม่ได้เป็นญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน แต่เป็นอาณาจักรแฟนตาซีที่มีเผ่าแฟรี่ อาณาจักร และสัตว์ประหลาดน่ากลัว โดยเรื่องราวได้เริ่มขึ้นจากการสิ้นพระชนม์ของพระราชาซึ่งถูกสังหาร และเกิดการแก่งแย่งแข่งขันขึ้นเพื่อตามหาผู้สืบทอดตำแหน่งแทน
.
สำหรับคุณ Katsura Hashino ผู้กำกับเกมนี้ “แฟนตาซี” คือโอกาสในการเล่นไอเดียบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้ในโลกทัศน์ยุคปัจจุบันของ Persona เขาต้องการเกมที่เน้นการเดินทางไกล ซึ่งเป็นพล็อตพื้นฐานของแนวแฟนตาซี แต่ทำได้ยากสำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของนักเรียนมัธยมปลาย ในขณะที่ Metaphor: ReFantazio จะให้ผู้เล่นเดินทางข้ามดินแดนแห่งจินตนาการที่กว้างใหญ่ ซึ่งมียานพาหนะที่จะช่วยเดินทางไปยังเมืองที่ห่างไกลและดันเจี้ยนได้
.
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า การที่ Metaphor: ReFantazio เป็นแนวแฟนตาซี ดาบกับเวทมนตร์ จะไม่เล่นประเด็นปัญหาในโลกความเป็นจริง ตรงกันข้าม คุณ Hashino ใช้โลกทัศน์แฟนตาซีเพื่อนำเสนอประเด็นเหล่านี้ ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป
.
“เราให้ ‘ความวิตกกังวล’ เป็นประเด็นหลักของเกม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทุกคนต่างก็มีความวิตกกังวล แต่ถ้าเราสร้างเกมที่พูดถึงความวิตกกังวลในโลกแห่งความเป็นจริง เราก็ต้องไปลงรายละเอียดลึกเฉพาะเจาะจงจริงจัง ว่าความวิตกกังวล ส่งผลต่อผู้คนในโลกยุคปัจจุบันอย่างไร เราคงจะจมอยู่กับรายละเอียดเหล่านั้น ผมจึงคิดว่า ‘งั้นเรามาสร้างเกมแฟนตาซีที่มีแต่เราที่สร้างได้กันดีกว่า'”
คุณ Hashino กล่าว
.
ใน Metaphor: ReFantazio ความวิตกกังวลไม่ได้แสดงออกมาเป็นเพียงแค่อารมณ์เท่านั้น แต่ยังแสดงออกมาในรูปแบบสิ่งที่จับต้องได้ เป็นอนุภาคในอากาศที่คุณสามารถมองเห็นได้ ซึ่งคุณ Hoshino ได้กล่าวว่า มันเป็นแนวคิดที่เป็นนามธรรมมากกว่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้ในโลกความเป็นจริง
.
แต่การเปลี่ยนไปสร้างโลกแฟนตาซี ก็มีความยากอยู่ไม่น้อย เพราะมันคือการสร้างโลกขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น หลังจากทุ่มเทเวลาให้กับเกมที่มีฉากหลังเป็นยุคปัจจุบันมานาน คุณ Hashino ก็ลงหลักสูตรแฟนตาซี 101 แบบเร่งรัด ด้วยการอ่านหนังสือนิยายอย่างเช่น The Lord of the Rings เพื่อหาแรงบันดาลใจ
.
แม้ว่าเขาจะหาไอเดียในการสร้าง Persona 5 ได้ง่ายๆ ด้วยการเดินไปตามถนนรอบๆ ออฟฟิศของเขา แต่แรงบันดาลใจสำหรับแนวแฟนตาซีกลับไม่ง่ายขนาดนั้น และในที่สุด เขาก็เริ่มคิดได้ว่า การเลียนแบบพล็อตแนวแฟนตาซีที่มีอยู่เพียงอย่างเดียวมันไม่เวิร์ค
.
“ผมตระหนักว่า หากเราพยายามเลียนแบบสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นในตัวละคร เซ็ตติ้ง หรือโลก ก็จะไม่มีทางที่จะเข้าใกล้ความเป็นออริจินอลได้จริงๆ หากเราพยายามเลียนแบบ มันก็จะเป็นแค่การเลียนแบบ ดังนั้นผมจึงคิดว่า: งั้นเรามาสร้างเกมแฟนตาซีที่มีแต่เราเท่านั้นที่สร้างได้กันดีกว่า”
คุณ Hashino กล่าว
.
ในท้ายที่สุด Metaphor: ReFantazio ก็ได้มอบสิ่งที่คุณ Hashino และทีมงานต้องการอย่างแท้จริง นั่นคือ ‘ประสบการณ์ใหม่’ มันบังคับให้ผู้กำกับ ไม่เพียงแต่สร้างโลกที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังต้องจินตนาการด้วยว่า ผู้คนในโลกนั้นจะมีพฤติกรรมและใช้ชีวิตอย่างไร หากจู่ๆ อนุภาคแห่งความวิตกกังวลปรากฏขึ้นในโตเกียว ผู้คนก็จะรู้สึกสับสนไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ใน Metaphor: ReFantazio สิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน
.
“การพยายามทำความเข้าใจความคิดของคนในโลกแฟนตาซี เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมากสำหรับผม และเป็นอะไรที่ผมไม่เคยทำมาก่อนเลยกับซีรีส์ Persona”
คุณ Hashino กล่าว
.
Metaphor: ReFantazio มีกำหนดวางจำหน่ายและเปิดให้เล่นบน PC และคอนโซล ในวันที่ 11 ต.ค. นี้

Sheapgamer Comments

แสดงความคิดเห็น