[News] Intel เคยคิดที่จะซื้อกิจการ Nvidia เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน แต่ล้มเลิกไป เพราะผู้บริหารมองว่า “แพงเกินไป”

จากรายงานของ The New York Times และแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า คุณ Paul Otellini อดีต CEO ของ Intel ผู้ล่วงลับไปแล้ว เคยมีความพยายามที่จะซื้อกิจการ Nvidia เมื่อตอนปี 2005 หรือเกือบ 20ปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้น Nvidia เริ่มมีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตชิปกราฟฟิก ทำให้ผู้บริหารบางคนในขณะนั้นมองว่าค่ายเขียวนี้มีศักยภาพมากพอสำหรับใช้ทำศูนย์ข้อมูลของ Intel
.
ทว่าคณะกรรมการบริหารในเวลานั้น มองว่าการซื้อกิจการมูลค่า 2 หมื่นล้าน USD เป็นราคาที่ ”สูงเกินไป” และจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดของบริษัทในขณะนั้นไปเลย ทำให้คุณ Otellini ต้องยอมแพ้และล้มเลิกความตั้งใจไป ในขณะเดียวกันคณะกรรมการมองว่าโปรเจ็กต์กราฟิกภายในอย่าง Larrabee ที่มีคุณ Pat Gelsinger ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็น CEO เป็นผู้นำโครงการ มีศักยภาพพอที่จะให้ลงทุนมากกว่า
.
แต่กลายเป็นว่าเกือบ 2 ทศวรรษต่อมา Nvidia ได้กลายเป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ล้ำหน้า Intel ไปไม่เห็นฝุ่นและยังคงทำผลงานได้เกินความคาดหวังที่สูงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน หุ้นของ Intel ร่วงลงประมาณ 53% ในปีนี้ และปัจจุบันมีมูลค่าต่ำกว่า 100,000 ล้าน USD ซึ่งน้อยกว่ามูลค่าตลาดของ Nvidia ที่ 3.4 ล้านล้าน USD ถึง 30 เท่า
.
ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา หุ้นของ Intel ร่วงลงไป 27% หลังจากที่รายได้ในไตรมาสที่สองไม่เป็นไปตามที่คาดไว้และประกาศเลิกจ้างพนักงานเพิ่มเติม คุณ Gelsinger กล่าวในการรายงานผลประกอบการของบริษัทว่า ผลประกอบการไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ส่วนหนึ่ง เนื่องมาจากการตัดสินใจ “เร่งพัฒนา” ชิปประมวลผลสำหรับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Core Ultra ที่สามารถใช้งานกับแอปพลิเคชัน AI ได้ดีขึ้น
.
เรื่องน่าสนใจคือ ไม่ใช่ว่า Nvidia เป็นบริษัทเดียวและบริษัทแรกที่ Intel พลาดโอกาสชิ้นงามนี้ไป ผ่านไป ราวๆ 10 ปี หลังจากไม่ได้ซื้อกิจการ Nvidia ก็มีรายงานว่า Intel ก็ทำพลาดอีกครั้งที่ตัดสินใจไม่ซื้อหุ้นใน OpenAI ในตอนนั้น ซึ่งยังไม่ได้จุดประกายให้เกิดกระแส AI ขึ้นมา ซึ่งปัจจุบัน OpenAI ดังเป็นพลุแตกด้วยการเปิดตัว ChatGPT ในเดือน พ.ย. 2022 ที่ผ่านมา จากการรายงานจาก Reuters ระบุว่า คุณ Bob Swan อดีต CEO ให้ความเห็นว่า เขาไม่คาดคิดว่าโมเดล AI ของ OpenAI จะเข้าสู่ตลาดเร็วพอที่จะทำให้การลงทุนของ Intel คุ้มค่ามากพอในเวลานั้น ทำให้พลาดโอกาสไปอีกครั้ง

Sheapgamer Comments

แสดงความคิดเห็น