หลังจากครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานมาร่วม 25 ปี ดูเหมือนว่า Intel อาจจะจำเป็นต้องหลีกทางใน Nvidia แล้ว หลังจากประกาศว่า Nvidia จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่จะนำมาคำนวณดัชนี และ Intel ถูกถอดออกจากลิสต์แทน โดยจะมีผลวันที่ 8 พ.ย. นี้
.
ต้องอธิบายเกี่ยวกับดาวโจนส์สักนิด ทุกคนคงจะรู้จักหรือได้ยินคำว่า “ดัชนีดาวโจนส์” หรือชื่อเต็มคือ “ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average)” กันมาอยู่บ้าง กล่าวคือมันคือดัชนีตัวชี้วัดที่สะท้อนภาพรวมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา โดยใช้ราคาหุ้นต่อ 1 หุ้น ของบริษัท 30 แห่งในตลาดหลักทรัพย์เป็นตัวคำนวนดัชนีดังกล่าว
.
ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากราคาหุ้นของ Intel ที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 30% ภายในคืนเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากผลประกอบการทางการเงินที่ย่ำแย่เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา บริษัทสูญเสียเงินสดในมือไปจำนวนมาก ส่งผลให้ขาดทุน 1.6 พันล้าน USD ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ต่อมาก็มีข่าวการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 15,000 คนทั่วโลก
.
ในทางกลับกัน ราคาหุ้นของ Nvidia เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากการเติบโตของ AI ภายในเวลาสั้นๆ ได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอยู่ช่วงหนึ่ง มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 3.34 ล้านล้าน USD แม้ว่าบริษัทจะร่วงลงมาอยู่อันดับ 2 ในปัจจุบันรองจาก Apple แต่ก็ยังถือว่าทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งในเวลาเพียงสั้นๆ
.
ความน่าสนใจคือ Intel อยู่ในดาวโจนส์ มาตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งหากเป็นแค่ Nvidia เข้ามาอยู่ในรายชื่อดัชนีร่วมกัน ก็อาจจะไม่ได้เป็นประเด็นเท่าใดนัก แต่พอเป็นการเข้ามาแทนที่ ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างที่น่าสนใจเช่นกัน
ไม่มีอะไรยอดเยี่ยมเท่าการได้เล่นเกมดีในราคาไม่แพง