Ubisoft เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน โดยระบุว่าทางบริษัทสามารถทำรายได้มากกว่า 290 ล้านยูโร หรือราว 11,400 ล้านบาทไทย หรือมากกว่าช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึง 8.3%
.
ซึ่งรายได้เหล่านี้ก็มาจากเกมต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา อาทิ เกมซีรีส์ Assassin’s Creed ที่ยังคงทำยอดขายได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะ Assassin’s Creed Mirage ส่วนหนึ่งก็มาจากกระแสความสนใจที่มีต่อ Assassin’s Creed Shadows ภาคล่าสุดในยุคศักดินาของญี่ปุ่น ที่ทาง Ubisoft ระบุว่า “Shadows คือภาคที่ทะเยอทะยานที่สุดของซีรีส์ Assassin’s Creed”
.
รวมไปถึงเกมอื่นๆ อย่าง The Crew Motorfest และสามารถทำรายได้จาก Microtransactions มากกว่า The Crew 2 และ XDefiant เกม FPS แบบ Free-to-Play ที่มีผู้เล่นมากกว่า 10 ล้านคนในช่วง 2 สัปดาห์แรก ทำให้ทางบริษัทตั้งใจที่จะพัฒนาอัปเดตตามมาอย่างต่อเนื่อง และ Rainbow Six Siege ที่เพิ่งอยู่ในช่วง Season 1 ของ Year 9 ซึ่งเป็น Season ที่ทำผลกำไรมากที่สุดนับตั้งแต่เกมวางจำหน่าย
.
นอกจากนี้ทาง Ubisoft ยังยืนยันว่า Skull and Bones เกม MMO ในโลกโจรสลัดที่แม้ว่ารีวิวจากสื่อและผู้เล่นจะเป็นไปในแง่ลบมากๆ แต่ตัวเกมก็ยังมีผู้เล่นเข้ามามีส่วนร่วมอยู่ค่อนข้างเยอะ
.
ซึ่งทางบริษัทคาดหวังว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณปัจจุบัน จะไม่ต้องพึ่งพารายได้จากเกมเก่าที่เคยออกไปแล้ว แต่จะเน้นไปที่รายได้จากการวางจำหน่ายเกมใหม่ อย่าง Star Wars Outlaws ที่มีกำหนดออก 20 ส.ค. นี้ และ Assassin’s Creed Shadows ที่มีกำหนดออก 15 พ.ย. นี้ ที่คาดว่าจะทำให้ทางบริษัทมีรายได้พุ่งสูงสุดถึง 500 ล้านยูโร หรือเกือบ 20,000 ล้านบาทไทย
[News] Ubisoft ลั่น! AC Shadows คือภาคที่ “ทะเยอะทะยานที่สุด” ในซีรีส์และคาดว่าจะทำรายได้ถล่มทลายในไตรมาสหน้า!
