Ubisoft เปิดเผยว่า ต้องการที่จะเปลี่ยนปรัชญาในการทำเกม ให้เข้าถึงสคริปน้อยลง โดยเริ่มจะจากเกม Assassin’s Creed ภาคถัดไป ที่ใช้แนวคิดใหม่นี้อย่างเต็มรูปแบบ
Serge Hascoet ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมของ Ubisoft ได้เปิดเผยกับ Le Monde ซึ่งเป็นสื่อหนังสือพิมพ์ของฝรั่งเศส ว่า บทบรรยายในเกมควรจะเป็นเพียงแค่ “เกร็ดเล็กๆน้อย” หรือเป็นส่วนที่สำคัญเป็นอันดับรองในเกม แทนที่จะบังคับให้ผู้เล่นเดินตามเนื้อเรื่อง
ซึ่งทาง Ubisoft ต้องการให้อิสระแก่ผู้เล่นที่จะสามารถเดินตามเนื้อเรื่อง หรือจะออกไปสำรวจในพื้นที่อื่นๆของตัวเกม ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะกลับมาทำเนื้อเรื่องต่อหรือไม่ โดยไม่มีบทบรรยายมาคอยควบคุม ซึ่งวิธีคิดเหล่านี้จะทำให้ผู้เล่นสามารถมีการปฏิสัมพันธ์กับโลกของเกมได้มากขึ้น อย่างกรณีของ Far Cry Primal หรือเกมล่าสุดอย่าง Watch_Dogs 2 ทั้ง 2 เกมนี้ได้มอบประสบการณ์การเล่นให้กับผู้เล่นด้วยโลกที่มีชีวิตชีวามากกว่าการกำหนดด้วยสคริปหรือบทบรรยาย และเกมแรกที่จะประเดิมปรัชญาใหม่นี้อย่างเต็มรูปแบบของทาง Ubisoft คือเกมในแฟรนไชส์ Assassin’s Creed ภาคต่อไป
ตามที่ Hascoet ได้กล่าวมา ทีมงาน Assassin’s Creed ได้ “สร้างระบบ” ที่ทำให้ผู้เล่นทำอะไรก็ตาม ก็จะส่งผลต่อเกมในระยะยาว และ “เปลี่ยนโลกของเกม”ไปได้เลย
“(Assassin’s Creed) จะยังมีส่วนของการบรรยายอยู่ เพราะเรายังอยากที่จะเจอ Borgias (House of Borgia หรือตระกูลบอร์เจีย ซึ่งมีบทบาทด้านการเมืองและศาสนาในช่วง ค.ศ. 15 – 16), the Medicis (ตระกูลเมดิซี ที่มีอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองของฟลอเรนซ์ในอิตาลี ช่วง ค.ศ. 13 – 17), Leonardo da Vinci (คงไม่ต้องอธิบาย น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว) ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ แต่แนวทางธุรกิจเกมของเราในตอนนี้ คือการได้เจอคนเหล่านี้ โดยที่ไม่ถูกกำหนดโดยตัวเกม”
Hascoet กล่าว
Hascoet ยังได้กล่าวว่า Assassin’s Creed จะมาในปี 2017 ในบทสัมภาษณ์ แต่ Yves Guillemot ประธานบริษัท Ubisoft เคยกล่าวไว้เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ไม่การันตีว่า Assassin’s Creed ภาคใหม่จะมาในปี 2017 และอาจจะไม่ออกจนกว่าจะถึงปี 2018 และจะกลับมาเมื่อพร้อม ซึ่งทางบริษัทคิดว่าจะใช้เวลาให้มากขึ้นกับแฟรนไชส์นี้เพื่อนำประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมกลับคืนมา
Source : VG247
