News

Konami ได้เปิดเผยรายงานรายได้ประจำไตรมาส ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยภาพรวมรายได้ลดลงเล็กน้อย แต่ในทางกลับกัน ผลกำไรกลับกระโดดสูงขึ้น รายได้ของ Konami ในไตรมาสนี้ ทำไปได้ 49.4 พันล้านเยน (หรือประมาณ 481.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งลดลง 3.5 เปอร์เซนต์จากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว และผลกำไรในไตรมาสนี้คือ 9.1 พันล้านเยน (88.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) พุ่งขึ้นจากเดิมถึง 40.2 เปอร์เซนต์ และดูเหมือนว่าธุรกิจปาจิงโกะของทางบริษัท แม้ว่าจะไปได้สวยและได้รับความนิยม แต่กลับทำรายได้ลดลงถึง 88.2 เปอร์เซนต์จากปีที่แล้ว และทำให้สูญเสียเงินไปจำนวนมากในไตรมาสนี้ ตรงนี้ทาง Konami ก็คงต้องขอบคุณรายได้ในส่วนของด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ขยายขอบเขตขึ้นมา(ที่เดาว่าคงมาโปะส่วนนี้ไปได้) และส่วนของฝั่งดิจิตอล(รวมทั้งคอนโซลและเกมบนมือถือ)ก็ถือว่า ทำกำไรไปได้สวย เพราะทำรายได้มากขึ้น 5.6 เปอร์เซนต์ หรือราวๆ 25.5 พันล้านเยน (245.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) และได้ผลกำไรถึง 34.3 เปอร์เซนต์ เป็นเงินราว 8.7 พันล้านเยน (84.7 ล้านเหรียญสหรัฐ)…

เป็นเรื่องปกติที่ในบางครั้งการวางจำหน่ายของวีดีโอเกมก็มีการเลื่อนออกไป อาจจะเพราะแผนการทำงานของทีมงานที่อาจจะแน่นเกิน หรือทีมงานต้องการเวลามากขึ้นในการขัดเกลาตัวเกมให้ดีขึ้น และในบางครั้ง ก็อาจจะเพราะ เขาลืมกดปุ่มปล่อยเกมออกวางขาย… ดังเช่นในกรณีของครั้งนี้กับ This Is The Police เกมวางแผนเกี่ยวกับตำรวจที่เตรียมเกษียณอายุราชการและต้องใช้วิธีสกปรกทุกวิธีในการหาเงิน เกมใหม่ที่มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 28 กรกฎาคม หรือวันนี้ และชาวเกมก็ควรจะได้เล่นกันไปแล้ว แต่ทางทีมงานกลับเลื่อนวางจำหน่ายไปเป็นวันที่ 2 สิงหาคม นี้แทน โดย Jan Binsmaier ตัวแทนผู้จัดจำหน่ายเกมนี้ได้อธิบายว่า “เมื่อจะวางขายเกมบนสตีม คุณจะต้องกดปุ่มหนึ่งในระบบ ที่เขียนว่า “พร้อมที่จะอนุมัติขั้นสุดท้ายจากทางสตีม” เมื่อกดแล้วทางสตีมก็จะเข้ามาตรวจสอบตัวเกม เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพเป็นไปตามมาตราฐาน ซึ่งปกติขั้นตอนในการอนุมัตินั้นจะใช้เวลาราวๆ 2 – 5 วัน คุณจะไม่สามารถปล่อยเกมออกวางขายได้หากไม่ผ่านขั้นตอนนี้ ซึ่งเราเองก็รู้ว่ามีขั้นตอนนี้แต่น่าเสียดายที่เราพลาดไป และเราก็เพิ่งมารู้ตัวเมื่อวานนี้ ซึ่งมันสายเกินไปแล้วสำหรับวันวางจำหน่ายที่เรากำหนดไว้เดิม คือ 28 ก.ค. เราต้องขอโทษในความผิดพลาดในครั้งนี้ด้วย มันเป็นความผิดพลาดโดยส่วนตัวของทางเราเอง” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าลืมกดปุ่มปล่อยเกม สำหรับ This Is The Police เป็นเกมแนววางแผนที่มีเนื้อหาให้เล่นประมาณ 25 ชั่วโมง โดยเราจะได้รับบทเป็นตำรวจที่เตรียมตัวเกษียณราชการ ซึ่งเขาจะต้องหาเงินจำนวน $500,000 ภายในเวลา…

อย่างที่เราๆรู้กันว่า Metal Gear Solid 5: The Phantom Pain เป็นเกมสุดท้ายของ Hideo Kojima ที่ได้ฝากทิ้งไว้ในกาย Konami ก่อนที่จะออกมาทำเกม Death Stranding ของตัวเอง ซึ่งตัวเกมที่ได้ออกมา ก็มีชาวเกมเล่นกันแล้ว วิพากย์วิจารณ์กันว่า ดูเหมือนว่าเกมก็น่าจะยังทำไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ถูกบีบให้ออกวางจำหน่ายมาก่อน เพราะใน Chapter 2 นั้นห้วนและเอาของเก่าจาก Chapter 1 มาวนใช้ใหม่บ่อยมาก ซึ่งได้มีการพบว่า Metal Gear Solid 5 Definitive Edition ขึ้นในร้านค้า Amazon ฝั่งญี่ปุ่น (ซึ่ง ณ ปัจจุบันได้ถูกถอนออกไปแล้ว) กับที่ NetGames ร้านขายเกมในประเทศเยอรมนี ตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ตัวเกม Metal Gear Solid 5: The Phantom Pain มันก็เป็นเกมที่ลงให้กับคอนโซลยุคปัจจุบันอย่าง XboxOne…

ดูเหมือนว่าเกมผจญภัยที่ขับเคลื่อนไปด้วยบทบรรยายของ Telltale ดูจะมีบทบาทมากขึ้นกับผู้ที่นิยมการดูสตรีมมิ่ง และแน่นอนชาวเกมที่เป็นผู้ชมเหล่านี้ ก็อาจจะอยากมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเกมด้วย ซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากหากผู้ชมจำนวนมาก สามารถที่จะโหวตการตัดสินใจในเกมหรือเลือกบทสนทนาได้ใช่มั้ย? มันกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว เพราะทาง Telltale Games ได้ประกาศในงาน Comic-Con ที่ซานดิเอโกเมื่อวานนี้ว่าทุกๆเกมของ Telltale ในอนาคตจะรองรับระบบ Multiplayer ดังกล่าว โดยจะเริ่มต้นใช้จากเกม Batman: A Telltale Series จากรายงานของ Shack News Batman: A Telltale Series จะเปิดตัวด้วยระบบใหม่ที่เรียกว่า Crowd Play ซึ่งประกอบไปด้วย 2 โหมด โดยโหมดแรกจะเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมเล่นสามารถร่วมกันตัดสินใจให้เกมดำเนินต่อไปทางใดจากผลโหวตส่วนใหญ่ ในขณะที่อีกโหมดจะอนุญาตให้ผู้เล่นหลักมีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจใดๆก็ตามในเกม ซึ่งเมื่อเลือกแล้ว Crowd Play จะทำการสร้าง URL ที่สามารถให้ผู้ร่วมเล่นอื่นๆสามารถเข้ามาดูได้ผ่านทางระบบสมาร์ทโฟนหรือ PC ซึ่งระบบนี้รองรับผู้ร่วมโหวตได้กว่า 2,000 คนต่อเกมเลยทีเดียว ทำให้เป็นระบบที่น่าจะสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจกว่าการสตรีมมิ่งเพียงอย่างเดียว Batman: A Telltale Series จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 2…

ดูเหมือนว่า ทาง Ubisoft จะตั้งความหวังกับเกมภาคต่อของ Watch Dogs เป็นอย่างมาก จากการที่ Yves Guillemot ประธานบริษัท Ubisoft คนเดิม คนที่เคยลั่นว่า The Division เป็นเกมที่ขายดีที่สุดทุบสถิติในประวัติศาสตร์ของ Ubisoft เพิ่มเติมคือวันนี้เขาก็ลั่นอีกแล้ว ในงานแถลงข่าวกับผู้ร่วมลงทุนว่า Watch Dogs 2 มีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวขึ้นสู่ 1 ในการเป็นเกมยอดขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 30 ปีของ Ubisoft “Watch Dogs 2 มีศักยภาพเพียงพอที่จะกลายเป็น 1 ในเกมที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของ Ubisoft” Guillemot กล่าว เขายังกล่าวว่า เขามีความมั่นใจในการพัฒนาเกมเพลย์และเนื้อเรื่องของทีมที่ทำภาคต่อนี้ โดยเฉพาะ ระบบออนไลน์ที่ไร้รอยต่อยิ่งกว่าเดิม และระบบ Co-op รวมถึงตัวละครที่น่าดึงดูด และเนื้อเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของเหล่าแฮคเกอร์ และยิ่งไปกว่านั้น เสียงตอบรับของ Watch Dogs 2 หลังจากที่ประกาศเปิดตัวในงาน E3 ที่ผ่านมา ก็เป็นไปในด้านบวกอย่างมากอีกด้วย โดย…