Dustborn เกมแอ็คชันผจญภัยกึ่งจับจังหวะดนตรีจาก Red Thread Games วางจำหน่ายมาได้ 1 สัปดาห์กว่าๆ และกลายเป็นศูนย์กลางของสงครามวัฒนธรรมไร้สาระไปแล้ว เพราะหากคุณค้นหารีวิวเกี่ยวกับเกมนี้บน Google จะได้เจอกับเสียงวิจารณ์จากผู้เล่นที่ไม่ได้บ่นเรื่องเกมเพลย์หรือเรื่องการออกแบบใดๆ แต่กลับพูดแต่เรื่อง “Woke” และคำอื่นที่ใช้เพื่อบ่น เมื่อมีการนำเสนอเกี่ยวกับคนผิวสี เพศทางเลือก และการเมืองซ้ายจัดในสื่อต่างๆ
.
ล่าสุด Red Thread Games ได้ออกมาแถลงการณ์และกล่าวประณามถ้อยคำล่วงละเมิดและแสดงความเกลียดชังเหล่านั้น บนโซเชียลมีเดียของทางบริษัท โดยระบุว่า เนื้อเรื่องของเกม “มีความหมายอย่างลึกซึ้ง” สำหรับทีมงาน และแม้พวกเขาจะเตรียมใจมาแล้วว่า จะต้องเกิดเสียงแตกเกี่ยวกับเกม แต่พวกเขาก็ขอต่อต้านการตกเป็นเป้าหมายของการล่วงละเมิดโดยตรงไปที่ผู้สร้างสรรค์ผลงาน นับตั้งแต่ Dustborn วางจำหน่าย
.
“พวกเราคิดอยู่แล้วว่า Dustborn จะจุดประกายให้เกิดการสนทนาและโต้เถียง และเรารอคอยที่จะมีส่วนร่วมไปกับผู้เล่นของเราทั้งในแง่บวกและสร้างสรรค์ น่าเสียดายที่การสนทนาเหล่านั้น กลับโดนโถมไปด้วยกระแสของการล่วงละเมิดและความเกลียดชัง
.
พวกเรายินดีต้อนรับคำแนะนำที่ช่วยกระตุ้นความคิดและการวิจารณ์ที่ให้เกียรติกัน พวกเราอ้าแขนรับการพูดคุยและโต้เถียง แต่เราจะไม่อดทนต่อคำพูดแสดงความเกลียดชัง ล่วงละเมิด และคุกคามในทุกรูปแบบ ผู้ใดที่มีส่วนร่วมในพฤติกรรมดังกล่าวจะถูกลบออกจากชุมชนของเรา”
Red Thread Games กล่าว
.
นอกจากนี้ทาง Quantic Dream ผู้จัดจำหน่าย Dustborn ก็ออกมาแถลงการณ์สนับสนุนทาง Red Thread Games โดยกล่าวว่า พวกเขาขอยืนอยู่ข้างเดียวกับทีมพัฒนาเกม และขอต่อต้าน “การแสดงความเกลียดชังในทุกรูปแบบ”
.
แม้ว่าทางสตูดิโอจะปิดการแสดงความเห็นในโพสต์ แต่ชาวเน็ตบางส่วนก็ยังกดรีโพสต์ข้อความดังกล่าวและแสดงความเห็นในแง่ลบ อย่างเช่น ทีมงานสมควรโดนล่วงละเมิดแล้ว จากเกมที่พวกเขาทำออกมา หรือชี้ประเด็นไปที่จำนวนผู้เล่นบน Steam ที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่บางส่วนก็ออกมาสนับสนุนและกล่าวว่า ทีมงานไม่ควรต้องมาแถลงการณ์ในเรื่องแบบนี้เลย
[News] ผู้สร้าง Dustborn ประณามกระแส “เกลียดชังและล่วงละเมิด” ต่อทีมงานจนไม่เกิดการพูดคุยเชิงสร้างสรรค์
