[News] โปรดิวเซอร์เผย AC Shadows คือภาคที่พัฒนามา 4 ปี และเป็นเวลาอันเหมาะสม เพื่อให้เกม “สมจริงที่สุด”

Assassin’s Creed Shadows ภาคล่าสุดของซีรีส์ Assassin’s Creed ที่จะนำพาผู้เล่นไปยังยุคศักดินาของญี่ปุ่น ที่แฟนๆ รอคอยมานาน กลายเป็นเกมที่ใช้เวลาในการพัฒนายาวนานที่สุดในซีรีส์ โดยใช้ไปถึง 4 ปี มากกว่า Assassin’s Creed Valhalla ที่ออกเมื่อปี 2020 ถึง 25% หลังจากที่ซีรีส์นี้ เคยเป็นเกมออกรายปีมาก่อนหน้าที่จะพลิกโฉมเป็นแนว RPG อย่างทุกวันนี้
.
โดยคุณ Karl Onnée หัวหน้าผู้อำนวยการสร้าง Assassin’s Creed Shadows ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง GamesIndustry ในหลายๆ ประเด็นเกี่ยวกับตัวเกม และเผยถึงเหตุผลว่า ทำไมภาคนี้ถึงใช้เวลาในการพัฒนานานมากๆ
.
“มันยอดเยี่ยมมากๆ ที่ได้ทำเกมที่ออกมาหลังจากเกมระดับ Valhalla แต่แน่นอนว่า ด้วยความคาดหวังอันสูงลิ่ว ทำให้เราต้องการที่จะทำให้ดีขึ้นเสมอ ที่เราก็พยายามทำแบบนั้นกับ Shadows พวกเรากำลังก้าวข้ามขีดจำกัดในสิ่งที่เราสามารถทำได้”
คุณ Onnée อธิบาย
.
และหัวใจสำคัญที่จะทำให้สามารถทำแบบนั้นได้ ก็คือ กระบวนการคิดและทำซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นสิ่งที่ “เร่งไม่ได้”
.
“มันเป็นเรื่องการจัดสมดุลระหว่างเวลาและต้นทุนเสมอ แต่การที่คุณมีเวลามากขึ้น คุณก็สามารถคิดและทำได้มากขึ้น จริงอยู่ว่า คุณสามารถเพิ่มคนเข้ามาทำโปรเจ็กต์หนึ่งได้ ก็จะใช้เวลาน้อยลง แต่มันไม่ได้ทำให้คุณมีเวลาในกระบวนการคิดและซ้ำๆ มากขึ้น เพราะมันก็ต้องใช้เวลาในการรับคำแนะนำจากทั้งผู้เล่น ทั้งทีมงาน แล้วดูว่าอะไรเวิร์ค อะไรไม่เวิร์ค และเราจะทำให้มันดีขึ้นได้ยังไง ระยะเวลา 4 ปี ผมคิดว่ามันเหมาะสมแล้วจากการออกแบบคอนเซปต์มาจนถึงเข้าสู่กระบวนการผลิตและรับคำแนะนำที่จำเป็นเพื่อนำมาประยุกต์ใช”
เขาอธิบาย
.
Assassin’s Creed ถือว่าเป็น 1 ในแฟรนไชส์ชั้นนำของวงการเกม ดังนั้น นี่ไม่ใช่เกมที่ Ubisoft จะทำลวกๆ เน้นเร็วเข้าว่า ในแง่หนึ่งที่ได้รับการยอมรับและชื่นชมของซีรีส์นี้ ก็คือความมุ่งมั่นที่จะทำให้ถูกต้องตามประวัติศาสตร์ (แน่นอนว่า ภายในเรื่องราวที่แต่งขึ้นมาใหม่) และนั่นคือ “สิ่งที่ไม่สามารถเร่งได้”
.
“พวกเราพยายามสร้างเกมที่ให้ความรู้สึกสมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันคือสิ่งที่เราภาคภูมิใจ แล้วมันยังเป็นสขั้นตอนที่ยาวนานมากๆ ในตอนที่เราสร้างบ้านญี่ปุ่นจากในยุคศักดินาของญี่ปุ่น จะบอกว่ามันแตกต่างจากบ้านในยุคกลางของฝรั่งเศสหรืออังกฤษมากๆ ดังนั้น คุณจะต้องเรียนรู้ในฐานะผู้สร้างสรรค์ว่า เขาจัดวางสิ่งของอะไรอยู่ข้างในบ้านญี่ปุ่นยุคโบราณ บางทีคนญี่ปุ่นยุคนั้น อาจจะไม่นำอาหารไว้ในนั้นเลยก็ได้ คุณจะต้องได้ทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้และเรียนรู้มัน ขั้นตอนนี้มันก็เลยยาวนาน”
คุณ Onnée อธิบาย
.
นอกจากนี้คุณ Onnée ยังอธิบายในด้านเทคนิคที่เครื่องเกมคอนโซลในยุคปัจจุบันมีศักยภาพมากพอที่จะทำเกมในยุคศักดินาของญี่ปุ่นที่แฟนๆ ซีรีส์นี้รอคอยกันมานานด้วย
.
“มันคือสิ่งที่เราอยากจะทำมาตลอด แต่มันจะต้องถึงเวลาที่ใช่ก่อน และผมมั่นใจว่า ทีมอื่นๆ ก็อยากจะทำมันเหมือนกัน พวกเรามีโอกาส เพราะเราเคยทำ Assassin’s Creed Odyssey [ที่มีฉากหลังเป็นยุคกรีกโบราณ] มาก่อน ดังนั้น เราจึงมีประสบการณ์ แต่ที่เรารู้สึกว่ามันถึงเวลาอันเหมาะสม ไม่ใช่แค่เพราะเรามีขุมพลังในแง่ของอุปกรณ์ แต่ด้วยเอนจิ้นเวอร์ชันใหม่ของเรา ทำให้เราสามารถส่งมอบเกมอย่างที่คิดเอาไว้ได้จริงๆ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะมีระบบอย่าง แสงและเงาที่กินแรงเครื่องมากๆ รวมถึงหลายๆ สิ่งอย่าง สภาพอากาศแบบไดนามิคด้วย”
เขาอธิบาย
.
ในขั้นตอนการค้นคว้าวิจัย สำหรับ Assassin’s Creed ก็ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เริ่มต้นจากการค้นคว้าภายในก่อนที่จะทำงานร่วมกับนักประวัติศาสตร์และที่ปรึกษาภายนอก ในกรณีของ Shadows พวกเขาก็ไปร่วมงานกับทีมที่ Osaka และ Tokyo จากนั้น เมื่อการค้นคว้าเสร็จสมบุรณ์ ทีมงานก็ตีตั๋วขึ้นเครื่องบินไปยังสถานที่จริงที่มีในเกม
.
“แน่นอนว่า มันไม่ใช่ยุคศักดินาของญี่ปุ่นจริงๆ แต่ก็เป็นเรื่องดีที่เราได้ไปดูสถานที่จริง เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เรารู้ว่า มันแตกต่างจากสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็น มันน่าสนใจมากๆ เพราะเมื่อทีมงานไปตรงนั้น สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราตะลึงคือ ป่าและความเป็นไปของมัน พวกเราเคยทำป่าของกรีก [ใน Odyssey] มาก่อน แต่ [ป่าของญี่ปุ่น] มันแตกต่างมากๆ จากสิ่งที่เราเคยทำ และเราก็ต้องปรับเปลี่ยนมัน แล้วคุณก็ไม่มีทางหาสิ่งนี้เจอ ด้วยการค้นคว้าด้านประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว
.
มันมีสิ่งเล็กๆ บางอย่างที่สำคัญมากๆ เพราะคุณจะได้เข้าใจความรู้สึกถึงมิติของสิ่งก่อสร้าง ของวัฒนธรรม ของอนุเสาวรีย์และศาลเจ้าที่ยังคงตั้งอยู่จนทุกวันนี้… มันคือสิ่งสำคัญที่จะต้องสร้างและถ่ายทอดออกมาให้ถูกต้อง
.
แน่นอนว่า เมื่อเราทำเกม เราก็พยายามที่จะนึกถึงฐานผู้เล่นทั่วโลก และเมื่อเราทำเกมที่มีฉากหลังในญี่ปุ่น เราก็หวังที่จะดึงดูดความสนใจของผู้เล่นชาวญี่ปุ่นให้มากขึ้น ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่งอสำคัญมากๆ ที่เราจะต้องพยายามทำให้มันรู้สึกสมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรามาจากจุดที่ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเพราะเราไม่รู้อะไรเลย เราต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่ศูนย์ เรากำลังทำให้มั่นใจว่า เราให้เกียรติต่อสิ่งต่างๆ เพราะมันคือสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับคนญี่ปุ่น เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ เมื่อคุณเข้ามา คุณไม่ต้องการที่จะเข้ามา ในฐานะคนที่รู้ทุกอย่างแล้ว พวกเราอยากจะสร้างอะไรบางอย่างที่เมื่อพวกเขาได้เห็นและได้เล่น พวกเขาจะยอมรับว่า นี่ล่ะคือประเทศของพวกเขาจริงๆ”
คุณ Onnée กล่าว
.
Assassin’s Creed Shadows มีกำหนดวางจำหน่ายบน PS5, XBSX|S และ PC ในวันที่ 15 พ.ย. นี้

Sheapgamer Comments

แสดงความคิดเห็น