[Review] Monster Hunter Stories เกมมอนฮันในรูปแบบ JRPG กราฟิกคมชัดขึ้น ระบบต่อสู้โดดเด่น

รีวิวโดยแอดมึน ค.
.
Monster Hunter Stories เป็นเกม Spin-off ของซีรีส์ Monster Hunter เกมแอ็กชันล่ามอนสเตอร์อันโด่งดังของค่าย Capcom โดยตัวเกมนำเสนอออกมาในรูปแบบ Turn-based RPG ที่มีเนื้อเรื่องชวนติดตาม ซึ่งเดิมเคยถูกวางจำหน่ายบน 3DS และบนมือถือ iOS Android เมื่อปี 2017 และได้รับการรีมาสเตอร์วางจำหน่ายบน PS4 Switch และ PC ผ่าน Steam ในเดือนมิ.ย. 2024
.
สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นภาค Stories มาก่อน เกมนี้แทนที่ผู้เล่นจะรับบทเป็น Hunter ออกไล่ล่ามอนสเตอร์ เอาวัตถุดิบมาคราฟต์เกราะอาวุธเพื่อไปสู้กับมอนสเตอร์ที่โหดมากขึ้นเหมือนทุกภาคหลัก เกมได้นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มคนอีกจำพวกหนึ่งซึ่งตรงกันข้ามกับ Hunter ที่มองว่ามอนสเตอร์เป็นศัตรูอันตราย พวกเขามีความผูกพันกับมอนสเตอร์ มองว่าเป็นเพื่อนคู่หูของตน คนเหล่านี้คือ Riders ผู้ควบคุมพลังหิน Kinship เพื่อออกสำรวจดินแดนกว้างใหญ่ ร่วมกันต่อสู้ และฟักไข่มอนสเตอร์ และผู้เล่นก็คือ Rider ผู้ใช้ Kinship ออกเดินทางร่วมกับ Navirou แมวคู่ใจ เพื่อออกค้นหามอนสเตอร์หลากหลายสายพันธุ์ และสืบหาต้นตอเรื่องลึกลับที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
.
ตัวเกมดึงจุดเด่นหลายอย่างจาก Monhun ภาคหลักมาดัดแปลงเป็น Turn-base RPG ได้อย่างลงตัว เล่นแล้วน่าเชื่อว่านี่คือโลกในจักรวาล Monhun จริงๆ เกมมีความเป็นมิตรทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัย ทั้งภาพที่สดใสน่ารัก เนื้อหาที่เข้าถึงง่ายใช้ภาษาอังกฤษไม่ซับซ้อนเกินไป ระดับความยากในการต่อสู้ ถ้าช่วงต้นๆ ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ช่วงหลังๆ จะเริ่มตึงมือและยากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ผู้เล่นต้องออกค้นหามอนสเตอร์ตัวใหม่ๆ มาอัปเลเวล เพื่อนำไปต่อกรกับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้เล่นแล้วไม่รู้สึกจำเจ
.
ในส่วนของการสำรวจ ผู้เล่นจะได้ออกผจญภัยบนโลกกว้างที่เปิดให้ผู้เล่นได้เข้าไปสัมผัส ได้สำรวจพื้นที่ต่างๆ ทำภารกิจเสริมเพื่อหารายได้มาซื้อและอัปเกรดอาวุธชุดเกราะโดยไม่จำเป็นต้องรีบไปทำเนื้อเรื่องหลัก ผู้เล่นจะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวกับแมวหนึ่งตัว แต่ยังมีมอนสเตอร์ซึ่งเป็นคู่หูของเราด้วย ซึ่งการหามอนสเตอร์นั้น ผู้เล่นต้องเข้าถ้ำเพื่อไปที่รังของมัน ค้นหาไข่ซึ่งจะมีโอกาสสุ่มได้ตัวที่ดีหรือไม่ค่อยดีนัก แล้วหนีออกจากรังก่อนที่แม่ของมันจะเข้ามาเจอ จากนั้นก็กลับหมู่บ้านไปฟักไข่ เท่านี้มันก็พร้อมที่จะเป็นคู่หูของเราแล้ว (ฟักปุ๊บ โตทันใช้งานเลย)
.
ระบบการต่อสู้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยพื้นฐานในแต่ละเทิร์นผู้เล่นกับฝ่ายศัตรูจะเลือกวิธีการโจมตีจาก 3 รูปแบบคือ Speed, Power, Technic แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยจะใช้หลักการตัดสินแบบเป่ายิ้งฉุบ คือ Speed ชนะ Power > Power ชนะ Technic > Technic ชนะ Speed ฝ่ายที่ชนะจะได้โจมตีและสร้างความเสียหายอีกฝ่ายในเทิร์นนั้น ซึ่งการโจมตีจะไปเพิ่ม Kinship Guage จนถึงจุดหนึ่ง ผู้เล่นจะสามารถขี่มอนสเตอร์คู่หูแล้วปลดปล่อยความสามารถ Kinship เพื่อจัดการศัตรูได้
.
ในส่วนของการรีมาสเตอร์เกมภาคนี้ถือว่าทำออกมาดี ภาพมีความคมชัดแบบ HD มีเสียงพากย์เต็มรูปแบบทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ทำให้เล่นแล้วรู้สึกเข้าถึงตัวเกมมากยิ่งขึ้น มีการเพิ่มโหมด Musuem ซึ่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโลกของมอนฮัน เพลงประกอบ และภาพร่างของผู้พัฒนา และมี Title Update ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถตั้งฉายาตัวเองในเกมไปอวดคนอื่นได้ แต่โดยส่วนตัวนอกจากกราฟิกกับเสียงพากย์แล้ว แอดไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกใหม่เป็นพิเศษเพิ่มเข้ามาในเกมมากนัก ยิ่งถ้าใครเคยเล่นบน 3DS หรือมือถือมาแล้ว ก็อาจจะเฉยๆ ไปเลยก็ได้
.
โดยรวมแล้วเป็นเกมที่เล่นแล้วเพลิน เนื้อเรื่องชวนติดตาม ระบบต่อสู้เข้าใจง่ายแต่ต้องใช้เวลาถ้าจะเล่นให้เก่ง เกมมีอะไรให้ทำมากกว่าแค่ต่อสู้ ทั้งค้นหาหมู Poogie หาสมุนไพรมาปรุงยา หาแร่มาตีอาวุธ ฯลฯ แต่สำหรับคนที่เคยเล่น Monster Hunter Stories 2: Wings of Ruin ซึ่งเป็นภาคที่วางจำหน่ายบน PC และคอนโซลเมื่อปี 2021 หากนำภาค 1 มาเปรียบเทียบ อาจจะรู้สึกว่าภาค 1 กราฟิกสวยไม่สู้ภาค 2 นัก
.
ซึ่งสำหรับคนที่เคยชอบภาค Wings of Ruin แต่ยังไม่เคยเล่นภาค 1 มาก่อน แอดคิดว่าภาค 1 ก็เป็นภาคที่เล่นแล้วสนุกไม่แพ้กัน ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นแต่ชอบ Monhun หรือแนว Turn-based RPG อยู่แล้วก็น่าลองหามาเล่นเช่นกัน มันสนุกและเปิดโลกทัศน์โลกของ Monhun ในอีกมุมมองหนึ่งได้น่าสนใจและชวนติดตาม
.
ขอขอบคุณทาง Capcom Asia สำหรับคีย์เกม Monster Hunter Stories สำหรับการรีวิวด้วย

Sheapgamer Comments

แสดงความคิดเห็น