จริงๆ เป็นข่าวเก่าเมื่อปี 2021 แต่ตอนนี้กลับมาเป็นกระแสบน X อีกครั้ง ก็เลยขอเอามาเล่าอีกรอบละกัน
.
ทาง Microsoft ออกสารคดีความยาว 6 ตอนในชื่อ Power On: The Story of Xbox เมื่อปี 2021 ที่เป็นการเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาของเครื่องคอนโซล Xbox ซึ่งมีการเปิดเผยในเนื้อหาส่วนหนึ่งว่า Grand Theft Auto III ภาคหลักลำดับที่ 3 ของซีรีส์ Grand Theft Auto ที่พลิกรูปแบบจากเกม 2D มุมมองจากด้านบน มาเป็น 3D ในโลก Open World และมอบอิสระให้กับผู้เล่นอย่างเต็มรูปแบบ เคยเกือบจะเป็นเกม Exclusive บน Xbox มาก่อน
.
โดยคุณ Kevin Bachus ผู้จัดการ DirectX ของทาง Microsoft เปิดเผยในสารคดีว่า วันหนึ่งเขาและทีมงานนำไอเดียใหม่จากผู้จัดจำหน่ายรายเล็กๆ รายหนึ่งที่ติดต่อเข้ามา แล้วบอกว่า “เฮ้ เราอยากจะปัดฝุ่น 1 ในเกม 2D ที่เราเคยทำลง PC เราจะลงทุนลงแรงทำมันจริงๆ จังๆ เราคิดว่ามันจะต้องออกมาน่าตื่นเต้นมากแน่ๆ”
.
“และนี่จะเป็น Exclusive เกมใหม่ที่สำคัญมากๆ ของ Xbox แต่คนที่ตรวจสอบโปรเจ็กต์จากผู้จัดจำหน่ายและนักพัฒนาเกม บอกว่า ‘ผมไม่คิดว่าเกมนั้นจะสามารถเปลี่ยนจาก 2D มาเป็น 3D ได้จริงๆ'”
คุณ Drew Angeloff อดีตผู้จัดการโปรแกรมของ Microsoft กล่าว
.
“พวกเขารู้สึกว่ามันซับซ้อน พวกเขาไม่เข้าใจ UI เขาคิดแค่ว่า มันก็เป็นแค่การต่อยอดมาจากเกมที่ไม่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน ทำเอาผมประหลาดใจมากที่เกมนี้โดนปฏิเสธ”
คุณ Bachus กล่าวต่อ
.
“และเกมนั้นก็คือ Grand Theft Auto III”
คุณ Angeloff กล่าว
.
หรือพูดง่ายๆ ก็คือ Microsoft ปฏิเสธโปรเจ็กต์นี้ เพราะไม่เชื่อว่า Rockstar จะสามารถเปลี่ยนซีรีส์เกมอาชญากรรมในโลก Open World จาก 2D เป็น 3D ได้สำเร็จ และคิดว่าเกมภาคก่อนหน้าก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากพอให้ลงทุนขนาดนั้นด้วย
.
แต่ก็อย่างที่หลายคนทราบดีว่า Grand Theft Auto III วางจำหน่ายครั้งแรกบน PS2 เมื่อปี 2001 และประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย จนเป็นเกมขายดีที่สุดของปี 2001 – 2002 ด้วยยอดขายเฉพาะบน PS2 ในช่วง 2 ปีแรกก็ได้มากกว่า 2 ล้านชุดไปแล้ว จนได้รับการพอร์ตไปลงแพลตฟอร์มอื่นๆ (แน่นอนว่ารวมถึง Xbox ด้วย แต่วางขายหลังลง PS2 และ PC ไปแล้ว) และทำยอดขายรวมถึงปี 2008 ได้ถึง 14.5 ล้านชุด และ Grand Theft Auto III ก็เป็นอีก 1 ตัวแปรที่ทำให้ PS2 กลายเป็นเครื่องคอนโซลที่ขายดีที่สุดของ Sony และวงการเกมอย่างที่ยังไม่มีคอนโซลรายได้สามารถล้มได้จนถึงทุกวันนี้
.
ซึ่ง Microsoft ก็ยังคงทำพลาดแบบเดิมในอีก 20 ปีให้หลัง เพราะเมื่อปี 2022 คุณ Jay Ong รองประธานและหัวหอกของ Marvel Games เปิดเผยว่า เคยติดต่อไปยัง Xbox และ PlayStation เพื่อทำเกม Spider-Man ต่อ หลังแยกทางกับ Activision ซึ่งตอนนั้น Xbox ที่กำลังทำแฟรนไชส์เกมของตัวเอง ก็เลยปฏิเสธข้อเสนอของทาง Marvel Games ในขณะที่ Sony ดูจะกระตือรือล้นและอยากตอบรับข้อเสนอมากกว่า ด้วยเป้าหมายในตอนนั้นคือ พวกเขาอยากจะทำเกม Spider-Man ให้ออกมาดีทัดเทียมกับ Batman: Arkham และสุดท้าย Marvel’s Spider-Man ก็กลายมาเป็นเกม Exclusive ของ PS4 ด้วยฝีมือของ Insomniac Games และทำยอดขายอย่างถล่มทลายถึง 20 ล้านชุด จนสานต่อ ภาคสปินออฟ Miles Morales รวมถึง Marvel’s Spider-Man 2 บน PS5 ก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน
ไม่มีอะไรยอดเยี่ยมเท่าการได้เล่นเกมดีในราคาไม่แพง