หลังจากที่กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อ Escape from Tarkov เกม FPS แนวยุทธวิธีการทหารแบบ Multiplayer ออนไลน์ และได้ออกเกมเวอร์ชันใหม่ในชื่อ The Unheard Edition ที่ราคาสูงถึง $250 ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึง PvE Co-op และการอัปเกรดใหม่ๆ ที่จะทำให้ได้เปรียบในการเล่นสุดๆ จนเหมือนเป็น Pay-to-Win รวมถึงผิดสัญญากับผู้เล่นที่เคยซื้อ Edge of Darkness ในราคา $100 (ซึ่งปัจจุบันเลิกขายไปแล้ว) ที่ว่าจะสามารถเข้าถึง DLC ได้ทั้งหมด แต่ผู้เล่นกลุ่มนี้ กลับไม่ได้สิทธิ์เข้าถึงโหมด PvE ด้วย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
.
ล่าสุดทาง Battlestate ผู้พัฒนาเกม Escape from Tarkov ก็ยอมเปลี่ยนใจ ที่จะไม่ล็อกโหมด PvE ให้เป็นโหมดเฉพาะ Unheard Edition อีกต่อไป และผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าถึงโหมดนี้ได้ ตามความคิดเห็นของผู้เล่น แต่ก็ยืนยันว่าจะไม่ละเลยคำมั่นสัญญาที่จะมอบ DLC ที่ตามมาทั้งหมดให้กับเจ้าของรุ่น End of Darkness เพราะ “โหมดเกม PvE ไม่ใช่ DLC”
.
โดยคุณ Nikita Buyanov ผู้บริหาร Escape from Tarkov โพสต์ข้อความชี้แจงลงใน Subreddit ของเกมนี้ เพื่อชี้แจงสถานการณ์โดยละเอียดเกี่ยวกับเจ้าของเวอร์ชัน Edge of Darkness และการเข้าถึงโหมด Co-op รวมถึงปัญหาอื่น ๆ
.
“ก่อนอื่นเลย โหมดเกม PvE ไม่ใช่ DLC เพราะ DLC ตามความเข้าใจของเรา คือส่วนเสริมที่สำคัญของเกม รวมถึงฟังก์ชันและเนื้อหาต่างๆ ที่ปล่อยออกมาหลังจากเกมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในรูปแบบแพ็ก Theme DLC ที่มีธีม (เช่น Scav Life DLC ซึ่งจะเพิ่มแมคคานิคและเนื้อหาใหม่มากมายเกี่ยวกับ Scav) อีกอย่าง ฟังก์ชันเฉพาะของโหมด PvE จำเป็นต้องทำเครือข่ายแยกกัน เพราะโดยหลักการแล้ว คุณจะเล่นบนเซิร์ฟเวอร์ของเราในโหมดปิดเท่านั้น ในขั้นตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปิดให้ผู้เล่นทั้งหมดที่เป็นเจ้าของเวอร์ชัน Edge of Darkness เข้าเล่นได้ ซึ่งในขณะนี้ เรายังไม่มีทรัพยากรที่เพียงพอสำหรับทำสิ่งเหล่านี้”
คุณ Nikita กล่าว
.
ด้วยความไม่พอใจของแฟนเกมที่มีอย่างต่อเนื่อง ทีมงานจึงได้มีการตัดสินใจว่า ผู้เล่นที่เป็นเจ้าของเวอร์ชัน Edge of Darkness จะเข้าเล่นโหมดโหมด PVE ได้ฟรี หลังจากที่เซิร์ฟเวอร์พร้อมใช้งานและรองรับความจุมากขึ้น แต่อาจจะต้องรอไปก่อน จนกว่าตัวเกมจะออกจาก Early Access ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีๆ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Unheard Editon ที่ต้องการลองเล่นโหมด PvE ก็สามารถจ่ายเงินซื้อตัวเกมเวอร์ชันนี้ เพื่อมีโอกาสทดสอบโหมด PvE ล่วงหน้าในช่วง Early Access ได้
.
“ตอนนี้พวกคุณมีโอกาสที่จะทดสอบโหมดนี้โดยการซื้อเกมรุ่น Unheard หรืออัปเกรดเป็นเวอร์ชันนี้ อีกทั้งเรายังตัดสินใจให้ส่วนลด 50% เมื่ออัปเกรดจากเวอร์ชัน Edge of Darkness เป็นเวอร์ชัน Unheard อีกด้วย”
ทีมงานกล่าวเสริม
.
อาจไม่น่าแปลกใจเลยที่การอัปเดตนี้ ไม่ได้ส่งผลดีต่อฐานแฟนๆ เลย ในขณะที่ชาวเกมอีกหลายคนก็ดูจะไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างของ Battlestate ที่ว่าโหมด PvE ใหม่ไม่ใช่ DLC ด้วย
ไม่มีอะไรยอดเยี่ยมเท่าการได้เล่นเกมดีในราคาไม่แพง