หลังจากที่รอกันมานาน ทาง Ubisoft ก็ได้เปิดเผยสเปค PC ที่ใช้ในการรันตัวเกม Watch_Dogs 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยสเปคที่ใช้มีดังนี้
ขั้นต่ำ
OS: Windows 7 SP1, Windows 8.1, Windows 10 (64-bit versions only)
Processor: Intel Core i5 2400S @ 2.5 GHz, AMD FX 6120 @ 3.5 GHz
RAM: 6GB
Video Card: Nvidia GeForce GTX 660 (2GB), AMD Radeon HD 7870 (2GB) or better
Hard Disk Space: 50 GB
Peripherals: Windows-compatible keyboard and mouse, Microsoft Xbox One Controller, Dual Shock 4 Controller
Multiplayer: 256 Kbps or faster broadband connection
ขั้นแนะนำ
OS: Windows 7 SP1, Windows 8.1, Windows 10 (64-bit versions only)
Processor: Intel Core i5 3470 @ 3.2GHz, AMD FX 8120 @ 3.9 GHz
RAM: 8GB
Video Card: NVIDIA GeForce GTX 780 (3GB), NVIDIA GeForce GTX 970 (4GB), NVIDIA GeForce GTX 1060 (3GB) or better, AMD Radeon R9 290 (4GB) or better
Hard Disk Space: 50 GB
Peripherals: Windows-compatible keyboard and mouse, Microsoft Xbox One controller, Dual Shock 4 controller
Multiplayer: 256 Kbps or faster broadband connection
และในการนี้ทาง Ubisoft ก็ได้ประกาศเลื่อนวางจำหน่ายตัวเกม Watch_Dogs 2 บน PC อีกด้วย โดยเลื่อนจากกำหนดการณ์เดิม 15 พ.ย. 2016 ไปเป็น 29 พ.ย. 2016 แทน ก็เลื่อนไปราวๆ 2 สัปดาห์ ด้วยเหตุผลว่าต้องการใช้เวลามากขึ้นในการขัดเกลาตัวเกมเวอร์ชั่น PC ให้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดีทาง Ubisoft เองก็ไม่ได้เลื่อนเปล่า แต่ได้ลิสต์รายการทั้งหมดที่ทีมงานจะทำการขัดเกลาตัวเกม Watch_Dogs 2 บน PC ด้วยตามรายการดังนี้
ทั่วไป
– สนับสนุนความละเอียด 4K
– ปรับแต่งตัวเกมเพื่อลดอาการแล็คหรือกระตุก ซึ่งทางทีมงานได้แก้ไขปรับแต่งการใช้นำเอา GPU และ VRAM มาใช้สร้างทรัพยากรในเกมให้ดียิ่งขึ้น
– ไม่มีการล๊อคเฟรมเรท
– สนับสนุน SLI และ Crossfire อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่เปิดตัวสำหรับ PC
– ระบบเซฟเกมหลากหลายขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะทำให้ชาวเกมมีเซฟอัตโนมัติ 3 ช่อง ที่ทำให้เล่นแยกกันได้ 3 รูท
– สนับสนุนระบบหลากหลายจอพร้อมโหมด Borderless และตัวเลือกที่สามารถปรับแต่งตำแหน่งของเมนูและ HUD ได้
– ตัวเลือกโหมดหลากหลายหน้าต่างที่จะสามารถปรับแต่งขนาดได้ บนระบบหลากหลายจอ
ฟีเจอร์กราฟฟิกที่ดีขึ้น
– Screen Space Reflections – น่าจะหมายถึงพวกเงาสะท้อนต่างๆ ที่ภาคแรกไม่มีเงาสะท้อนในกระจก ภาคนี้ก็คงจะมีแล้ว
– Headlight Shadows – สนับสนุนเงาเพิ่มเติมจากแสงไฟรถยนต์ (ภาคแรกก็ไม่มีเช่นกันและเป็นที่แซวกันจนทุกวันนี้ว่า แสงไฟรถยนต์ส่องตัวละครแต่ทำไมไม่มีเงาวะ!!)
– ตัวเลือกรายละเอียดเพิ่มเติม – สามารถเพิ่มความละเอียดให้วัตถุในเกมได้ รวมถึงการเพิ่มรายละเอียดของวัตถุในระยะไกลด้วย
ตัวเลือกปรับแต่งกราฟฟิกที่ดีขึ้น
– เพิ่มตัวเลื่อนในการปรับ Field of View ไม่ล๊อค FOV ตายตัวแบบภาคแรกแล้ว
– เพิ่มตัวเลื่อนในการปรับความหนาแน่นของเม็ด Pixel
– เพิ่มตัวเลื่อนในการปรับ ความคมชัด
– แพค Texture ละเอียดขนาด Ultra ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว
– ตัวเลือกปรับเงาของวัตถุ (Ambient Occlusion ) จะมีตัวเลือกที่เป็นเทคนิคของทาง Ubisoft เองมาให้ใช้ (SSBC and HMSSAO), HMSSAO
– ตัวเลือกในการปรับลบขอบ หรือ Anti-aliasing ก็มีให้ใช้ทั้ง TXAA, MSAA, และตัวเลือก Post Processing Anti-Aliasing (SMAA and FXAA)
ตัวเลือกปรับแต่งการควบคุมด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดที่ดีขึ้น
– ใช้เมาส์และคีย์บอร์ดได้อย่างเต็มรูปแบบ
– ทีมงานได้ใช้เมาส์แบบดิบๆที่ใช้กันทั่วไปบน Windows นี่ล่ะในการลดความหน่วง และควบคุมในเกม โดยที่ไม่มีการยัดเยียดฟิลเตอร์ Smooth หรือ Accelerate (ที่ใช้ในคอนโซล) มาให้ใช้แต่แรกเหมือนภาคแรก
– สนับสนุนคีย์บอร์ดเต็มรูปแบบ ในทุกๆเมนูและ App เพื่อการเข้าถึงที่เร็วกว่า และสามารถปรับแต่งคีย์ลัดต่างๆได้อย่างสะดวกโยธิน
– รองรับระบบ Mouse-centric UI ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ UI ใดๆในเกม จะเป็นเมนู หรือสมาร์ทโฟน ก็รองรับการกดด้วยเมาส์ โดยผู้เล่นสามารถจบการสั่งการบน UI ได้ด้วยเมาส์เพียงอย่างเดียว และทุกอย่างสามารถคลิกได้หมด
– โหมดล๊อค หรือกดค้างปล่อย สำหรับการควบคุมบางอย่าง เช่น เล็ง, วิ่ง, เดิน, กล่องเก็บของ และอื่นๆ
การขับรถ
– เป็นสิ่งที่ภาคแรกก็โดนด่าไปพอสมควรว่าการขับรถในเกมมันแปลกๆ ควบคุมยาก รถดูเบาโหวง และอื่นๆ สำหรับภาคนี้ทีมงานก็ได้ปรับแต่งให้เข้ากับการควบคุมด้วยคีย์บอร์ด และสามารถปรับแต่งความไวในการเลี้ยวได้ด้วย เช่นเดียวกับความไวในการหมุนมุมกล้องหรือระบบเด้งกลับของมุมกล้องระหว่างขับก็ปรับแต่งได้หมด
สนับสนุน Gamepad
– สนับสนุนระบบเปลี่ยนการควบคุมแบบ On-the-fly หรือพูดง่ายๆ คือ จะใช้เมาส์คีย์บอร์ด หรือจอย ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ได้เลย ไม่ต้องไปนั่งปรับแต่งอะไรใน Options โดย UI จะเปลี่ยนโหมดให้อัตโนมัติ
– สนับสนุน จอย Xbox 360 และ Xbox One, จอยที่ใช้ระบบ XInput (พวก Logitech F310 อะไรพวกนี้), จอย PlayStation 4 แต่อย่างไรก็ดีทางทีมงานก็ได้แจ้งล่วงหน้าว่าตัวเกมไม่สนับสนุนจอยที่ใช้ Direct Input (พวกจอยเพลย์เซินเจิ้นทั้งหลาย), Steam controllers หรือจอยพวงมาลัย
ก็ฟังดูยุติธรรมดี หาก 2 สัปดาห์ที่เสียไปในการเลื่อนวางจำหน่าย ทาง Ubisoft ทำออกมาได้อย่างที่ว่าไว้ข้างต้นจริงๆ ก็น่าจะเรียกได้ว่ามันน่าจะราบลื่นกว่าตอน Watch_Dogs แรกเยอะอยู่ หวังว่าคราวนี้จะกู้หน้าจากภาคแรกได้ดีกว่าเดิมนะ
สำหรับคนที่สนใจ Watch_Dogs ภาคแรกไปเล่นก่อนรอภาค 2 ที่จะออกปลายเดือนหน้าก็สามารถซื้อแบบลดราคาได้ที่ Kinguin ตอนนี้เหลือ €5.99 หรือประมาณ 230 บาท (ได้เป็น Uplay คีย์)
Source : PCGamer
